กรุงเทพฯ – รัฐบาล ชี้แจง เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไม่จ่ายประโยชน์ซ้ำซ้อน ไม่มีระเบียบใหม่ให้ข้าราชการบำนาญรับเพิ่ม
วันที่ 2 กันยายน 2565 นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตามที่มีการส่งต่อข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุว่า ได้มีการปรับหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ให้กลุ่มผู้ได้รับบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกันจากรัฐ สามารถรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้อีกทางหนึ่งด้วยนั้น
ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง ปัจจุบัน การจ่ายเบี้ยยังชีพแก่ผู้สูงอายุยังยึดหลักเกณฑ์ตามระเบียบ คณะกรรมการผู้สูงอายุ (กผส.) และระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2552 และที่เพิ่มเติม พ.ศ.2561 ที่กำหนดไม่ให้มีการจ่ายเบี้ยยังชีพซ้ำซ้อนกับประโยชน์อื่น
นางสาวไตรศุลี กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา เกิดกรณีผู้สูงอายุที่รับบำนาญ หรือเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน เช่น การรับบำนาญต่อจากบุตรที่เสียชีวิตแล้ว ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุด้วย กระทั่งเกิดกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฟ้องร้องเรียกเบี้ยยังชีพคืน เนื่องจากไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย แต่เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อผู้สูงอายุจากกรณีดังกล่าว คณะรัฐมนตรี เมื่อ 23 ส.ค.65 ได้มีมติให้คืนเบี้ยยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุที่รับประโยชน์ซ้ำซ้อน ที่ได้นำเงินมาคืนทางราชการแล้ว จำนวน 28,345 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 245.24 ล้านบาท รวมทั้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถอนฟ้องหรือระงับการบังคับคดี
ข่าวน่าสนใจ:
จากปัญหาข้างต้น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงอยู่ระหว่างการนำเสนอแนวทางการกำหนดนโยบายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อ กผส. เพื่อให้เกิดความชัดเจน เมื่อมีระเบียบของ กผส. ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กระทรวงมหาดไทยจะได้ปรับปรุงระเบียบให้สอดคล้องกัน และประกาศให้ประชาชนทราบต่อไป
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ระหว่างระเบียบการจ่ายเบี้ยยังชีพ ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงให้เกิดความชัดเจน การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ณ ปัจจุบัน จึงยังต้องยึดหลักเกณฑ์เดิม คือ ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุ 60 ปีขึ้นไป และไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ ผู้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน แต่ไม่รวมถึงผู้พิการหรือผู้ป่วยเอดส์ หรือผู้ได้รับสวัสดิการอื่นตามมติ ครม. จึงขอให้ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุ ติดตามตรวจสอบประกาศระเบียบที่เป็นทางการ ไม่หลงเชื่อข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์โดยง่าย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: