กรุงเทพฯ – ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง รับฟ้อง นายนิพนธ์ บุญญามณี พร้อมอนุญาตประกันตัวในวงเงิน 100,000 บาท กรณีละเว้นไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ อบจ.สงขลา
วันที่ 5 กันยายน 2565 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นจำเลยในความผิด ฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีไม่จ่ายเงินค่าซ่อมรถบำรุงทางเอนกประสงค์ วงเงิน 50 ล้านบาทขณะดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พร้อมขอให้ศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายนิพนธ์ เปิดเผยว่า ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อนเข้ารายงานตัวต่อศาล เมื่อช่วงเช้า ด้วยเหตุผลไม่ประสงค์จะใช้ตำแหน่งหน้าที่ เวลาราชการ มาสู้คดี ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ชื่นชมและให้กำลังใจให้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ การลาออกมีผลวันนี้ทันที และจะใช้เวลามาต่อสู้คดีนี้ เพราะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว อีกทั้งไม่ได้มีแค่คดีนี้คดีเดียว ยังมีคดีที่ตนเองฟ้องเพิกถอนคำสั่งกระทรวงมหาดไทย และ ป.ป.ช. อยู่ในศาลปกครองกลางด้วย
นายนิพนธ์ ยืนยันว่า การลาออกครั้งนี้ไม่มีใครกดดัน เป็นความตั้งใจของตนเองเพื่อมีเวลาต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ พร้อมย้ำว่าไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้งใครทั้งสิ้น สาเหตุที่ไม่จ่ายค่ารถ เพราะมีหนังสือมาจากจังหวัด และได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ผลออกมาว่ามีการฮั้ว แล้วจะให้จ่ายเงินได้อย่างไร ทั้งนี้ ได้บอกกับประชาชน สื่อมวลชน และสภาฯ มาเป็นระยะ ๆ ถึงข้อมูล ข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริงคดีนี้
ต่อมา ศาลพิเคราะห์คำฟ้องโจทก์และคำคัดค้านการฟ้องคดีของจำเลยแล้วเห็นว่า แม้ว่าคดีนี้เกิดขึ้นนอกเขตของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และพยานหลักฐานส่วนใหญ่จะอยู่ที่จังหวัดสงขลา แต่เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และการติดต่อระหว่างศาลกับคู่ความหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี อาจกระทำโดยทางโทรสาร จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อสารทางเทคโนโลยีสารสนเทศประเภทอื่นได้
การสืบพยานสามารถดำเนินการ โดยการถ่ายทอดภาพและเสียงในลักษณะการประชุมทางจอภาพ ตามข้อบังคับของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยวิธีการดำเนินคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 ข้อ 6-7 ได้อยู่แล้ว อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 5 วรรคสอง
จึงให้ประทับรับฟ้องโจทก์ เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.167/2565 และหมายขังจำเลย เว้นแต่มีประกันจำเลย
ศาลสอบจำเลยแล้ว แถลงยืนยันว่า ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว ตามเอกสารท้ายคำร้องจริง ในชั้นนี้จึงไม่พิจารณาสั่งให้จำเลยหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามคำร้องของโจทก์ และจำเลยประสงค์ต่อสู้คดี โดยจะทำคำให้การปฏิเสธพร้อมรายละเอียดในนัดหน้า ให้กำหนดวันนัดพร้อมเพื่อกำหนดวันนัดพิจารณา ในวันที่ 20 ตุลาคม 2565 เวลา 09.30 น.
อนึ่ง เนื่องจากโจทก์มิได้ทำสำเนาเอกสารประกอบการชี้ช่องนำสืบมาให้ฝ่ายจำเลย เพื่อที่จะได้ศึกษารายละเอียดในการต่อสู้คดี จึงให้โจทก์จัดทำสำเนาเอกสารประกอบนำสืบมาส่งศาล ภายใน 7 วัน และให้ฝ่ายจำเลยมารับเพื่อไปศึกษาในการต่อสู้คดี
นายวสันต์ สร้อยพิศุทธิ์ ทนายความ เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า ศาลรับฟ้องแล้ว และอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างการต่อสู้คดีวงเงิน 100,000 บาท โดยไม่มีเงื่อนไข
ส่วนนายนิพนธ์ ย้ำว่า ยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตั้งแต่แรก และหลังจากนี้ จะเป็นการสู้คดีในศาล ซึ่งจะต้องมีการนำพยานหลักฐานมาสู้กัน ไม่มีปัญหา แม้เป็นช่วงหาเสียงเลือกตั้ง เพราะสามารถใช้สิทธิ์ทางการเมืองได้ เนื่องจากยังไม่มีคำพิพากษา ยังไม่มีข้อหา และไม่มีข้อห้ามใด ๆ ในการดำเนินงานด้านการเมือง ตนเองยังมีคุณสมบัติการสมัครเป็น ส.ส.ครบถ้วน และไม่เคยใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.สู้ในชั้นศาล
