กรุงเทพฯ – กทม.เตรียมกระสอบทราย 2 ล้านใบ อุดแนวฟันหลอริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยืนยัน เพียงพอ ย้ำ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ยืดหยุ่นเวลาทำงานและทำงานที่บ้าน เพราะความจำเป็น เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด จากสภาพอากาศแปรปรวน
วันที่ 5 ตุลาคม 2565 ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายเจษฎา จันทรประภา รองผู้อำนวยการสำนักระบายน้ำ และนายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกของกรุงเทพมหานคร แถลงสถานการณ์น้ำ และการเตรียมความพร้อมรับมือน้ำในพื้นที่ รวมถึงกรณีขอความร่วมมือ Work From Home หรือ ทำงานที่บ้าน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ผศ.ดร.ทวิดา ระบุว่า กทม.ไม่สามารถร้องขอให้ใคร Work From Home ได้ เพียงแต่ขอความร่วมมือ ให้ยืดหยุ่นให้พนักงานกลับเร็วหากสามารถทำได้ เพราะสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) เตือนว่า น้ำเหนือจะลงมาตั้งแต่วันนี้ และสูงขึ้นในวันที่ 7-8 ต.ค.65 คาดว่าวันนี้ฝนจะตกในภาคกลางและกรุงเทพมหานคร
ขณะเดียวกัน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งให้รายงานภาพจากกล้อง CCTV เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ ทั้งก่อนและหลังฝนตก พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสภาพอากาศให้ประชาชนรับทราบ ในเวลา 05.00 น. และ 15.00 น. เป็นต้นไป ส่วนช่วงเวลาไหนมีฝนตกหนักก็จะแจ้งเตือนถี่ขึ้น
ข่าวน่าสนใจ:
ด้านรองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ รายงานว่า การระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ในอัตรา 2,697 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนสถานีบางไทร น้ำไหลผ่าน 3,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทานจะเริ่มผลักดันน้ำไปทิศตะวันตกมากขึ้น สำหรับสถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักยังรับได้ แต่น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อยู่ที่ 106% เกินความจุแล้ว ซึ่งจะต้องระบายน้ำผ่านกรุงเทพฯ ขณะที่น้ำทะเลหนุนสูงสุดในวันนี้ เวลา 18.03 น. ระดับฐานน้ำ +1.10 เมตร โดยเดือนนี้น้ำทะเลจะหนุนสูงสุดในวันที่ 8 ต.ค.65 ฐานน้ำ +2.20 ถึง 2.30 เมตร
ปริมาณฝนสะสมตลอดปี 2565 อยู่ที่ 1,979 มิลลิเมตร ปริมาณฝนสะสมเดือนกันยายน อยู่ที่ 801 มิลลิเมตร
กทม.เตรียมแผนรับมือน้ำเหนือและน้ำฝนไว้แล้ว โดยจัดกระสอบทรายอุดจุดฟันหลอ 76 จุด อาทิ ท่าเรือเทเวศร์ ถนนทรงวาด ท่าราชวรดิฐ ทำแผนบังคับน้ำปรับทางน้ำไหลที่คลองบางซื่อ คลองชวดใหญ่ตัดคลองลาดพร้าว ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และบังคับน้ำปรับทิศทางน้ำไหลบริเวณคลองบางเขนตัดคลองเปรมประชากร ติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฮดรอลิกที่สถานีสูบน้ำพระโขนง เพิ่ม 5 เครื่อง พร้อมประสานงานกับกรมชลประทานต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ที่เกิดฝนตกหนัก เนื่องมาจากมีแนวร่องอยู่กลาง กทม. จึงทำให้ฝนตกหนักถึง 100 มิลลิเมตร แต่วันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า แนวร่องนั้นหายไป เนื่องจากลมหนาวพัดลงมา หากให้คาดการณ์ฝนตกวันนี้ น่าจะเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ บริเวณด้านใต้ ได้แก่ เขตบางนา บางขุนเทียน ลาดกระบัง และประเวศ ซึ่งอาจมีฝนตกหนักเกิน 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง หรืออาจเกิดฝนตกทั่วกรุงเทพฯ ก็ได้ จึงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
นายเจษฎา จันทรประภา กล่าวด้วยว่า กทม.ได้เสริมกระสอบทรายให้หนาและแข็งแรงขึ้น ป้องกันการเกิดเหตุน้ำล้นเกินกระสอบทรายตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยาจาก ส่วนจุดรอยต่อ จ.นนทบุรี ถึง สมุทรปราการ ได้เสริมกระสอบทรายขึ้นไปสูงสุดจากเดิม +2.60 ม.รทก. ตลอดความยาว 3 กิโลเมตร
นอกจากนี้ กทม.ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังในจุดวางกระสอบทราย ตามริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่อาจจะมีการรั่วซึม หากน้ำทะเลหนุนสูงในบางช่วง โดยมีสถานีสูบน้ำและเครื่องสูบน้ำตลอดแนว ส่วนกรณีคาดการณ์ว่า น้ำเหนือจะอยู่ในอัตรา 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีนั้น คงไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากกรมชลประทานที่เป็นผู้บริหารจัดการน้ำได้เบี่ยงน้ำไปทางซ้าย-ขวา อย่างไรก็ตาม กทม.ได้เตรียมความพร้อมรับมืออย่างต่อเนื่อง และเตรียมกระสอบทรายไว้ 2 ล้านใบ สำหรับอุดแนวฟันหลอ รวมถึงกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินด้วย ซึ่งมีเพียงพอและพร้อมใช้งาน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: