กรุงเทพฯ – สถานการณ์โควิด-19 ช่วงวันที่ 16-22 ต.ค.65 มีผู้ป่วยใหม่ 2,616 คน เสียชีวิต 40 คน ขณะที่ยอดฉีดวัคซีนลดฮวบ ห่วงประชาชนร่วมประเพณีกฐิน แนะปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคเคร่งครัด โดยเฉพาะกลุ่ม 608
วันที่ 24 ตุลาคม 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรครายงานสถานการณ์โควิด-19 ในรอบสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 16-22 ตุลาคม 2565 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่รักษาตัวในโรงพยาบาล 2,616 คน เฉลี่ยวันละ 373 คน เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า (9-15 ตุลาคม) ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,234 คน เฉลี่ยวันละ 319 คน ทำให้ผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงปัจจุบัน อยู่ที่ 2,466,462 คน
สำหรับผู้เสียชีวิตรายใหม่ 40 คน เฉลี่ยวันละ 5 คน ลดลง เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ที่เสียชีวิตรวม 53 คน เฉลี่ยวันละ 7 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงปัจจุบันอยู่ที่ 11,224 คน
ส่วนยอดผู้ป่วยปอดอักเสบ 396 คน และต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 214 คน
ยอดวัคซีน ณ วันที่ 22 ตุลาคม 2565 ให้วัคซีนสะสม 142 ล้าน 838,676 โดส เพิ่มขึ้น 3,563 โดส
เป็นวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 57 ล้าน 029,784 โดส เพิ่มขึ้น 494 โดส
เข็มที่ 2 จำนวน 53 ล้าน 522,364 โดสเพิ่มขึ้น 468 โดส
และตั้งแต่เข็มที่3 ขึ้นไป 32 ล้าน 286,528 โดส เพิ่มขึ้น 2,603 โดส
น.ส.ไตรศุลี กล่าวอีกว่า แม้สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศจะทรงตัว มีผู้ติดเชื้อใหม่ในระดับต่ำต่อเนื่อง แต่การที่ต่างประเทศพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และบางประเทศในยุโรป ซึ่งเป็นสายพันธุ์ XBB มากขึ้น รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข จึงยังให้ความสำคัญกับนโยบายเร่งให้วัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชน เพื่อช่วยลดการป่วยหนักและเสียชีวิต
โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบนโยบายให้ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ดำเนินการโครงการ ‘รวมพลัง อสม. ส่งต่อภูมิคุ้มกัน ป้องกัน 608 ให้ปลอดภัย’ ค้นหากลุ่มเป้าหมายในชุมชนให้เข้ารับวัคซีน ตั้งแต่ขณะนี้ถึงสิ้นปี 2565 อย่างน้อย 2 ล้านโดส และขอให้ อสม.ทุกคน ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นอย่างน้อย 1 เข็ม เพื่อเป็นต้นแบบการสร้างภูมิคุ้มกันแก่ประชาชน
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า เนื่องจากในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน จะมีประเพณีทอดกฐินทั่วประเทศ ซึ่งจะมีการรวมตัวของประชาชนจำนวนมาก กรมอนามัยขอให้ประชาชนยังคงปฏิบัติตามแนวทางป้องกันจากโรคระบาดโดยเคร่งครัด ด้วยการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ในสถานที่ปิด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก หรือต้องทำกิจกรรมที่มีคนร่วมกันจำนวนมาก หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ ทุกครั้งเมื่อสัมผัสวัตถุหรือสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน และให้หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสบริเวณใบหน้า สังเกตอาการตนเอง หากมีความเสี่ยงให้ตรวจคัดกรองด้วย ATK โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ได้แก่ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: