กรุงเทพฯ – ปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว รัฐเตือน ถ้าข้อมูลไม่สมบูรณ์ จะต้องแก้ไขภายใน 17 พ.ย.นี้ เท่านั้น จี้ ฝ่ายค้าน-เพื่อไทย หยุดตีตราดูถูก ผู้สมัคร 22 ล้านคน เป็น ’คนจน’
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตามที่กระทรวงการคลัง ปิดรับการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565แล้ว โดยมีประชาชนลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน-31 ตุลาคม 2565 จำนวน 22,293,473 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เวลา 15.00 น.)
ผู้ที่ลงทะเบียนและผ่านขั้นตอนตรวจสอบสถานะแล้ว พบว่า ‘สถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์’ ไม่ต้องดำเนินการใด ๆ ขอให้รอการประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติ ในช่วงเดือนมกราคม 2566
ส่วนผู้ที่ ‘สถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์’ สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ที่ ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขต หากพบข้อมูลไม่ถูกต้อง ต้องติดต่อขอแก้ไขข้อมูล ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ตนเองยื่นเอกสารเท่านั้น สำหรับผู้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ สามารถติดต่อขอแก้ไขข้อมูลที่หน่วยงานรับลงทะเบียนใดได้เช่นกัน ซึ่งต้องดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน 2565 นี้เท่านั้น
“ต้องขอย้ำว่า จำนวนลงทะเบียนหรือผู้ที่ได้รับบัตรสวัสดิการ ไม่ใช่จำนวนคนจนในประเทศไทย แต่เป็นกลุ่มที่รัฐบาลต้องการเข้าไปช่วยดูแลลดความเหลื่อมล้ำ พัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มเปราะบางให้ดีขึ้น เป็นหนึ่งในนโยบายในการแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำที่เป็นวาระสำคัญของชาติ” น.ส.ทิพานัน กล่าว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ที่ไม่ใช่คนจนทั้งหมด เพราะทุกรัฐบาลมีเส้นเกณฑ์วัดความจน จากข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน สำนักงานสถิติแห่งชาติ ที่มีการวิเคราะห์หลายมิติ ซึ่งเมื่อปี 2564 ระบุว่า ประเทศไทยมีคนจนอยู่ที่ 4,404,616 ล้านคน คิดเป็น 6.32 % ของประชากรทั้งประเทศ โดยเกณฑ์ตัดสินว่าบุคคลนั้นเข้าข่ายจนหรือไม่จนในปี 2564 คือ รายได้ต่อเดือนที่ต้องได้ต่ำกว่า 2,802 บาทต่อคน/ต่อเดือน และหากพิจารณาข้อมูลย้อนไป 10 ปี จากสถิติ พบว่า ในปี 2555 ยังมีคนจนอยู่ถึง 8,441,462 คน
ระหว่างปี 2560-2565 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้ Big data และระบบวิเคราะห์ข้อมูลแบบชี้เป้า โดยอ้างอิงฐานข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า ข้อมูลการสำรวจนี้จะแตกต่างจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ดังนั้น จากยอดการลงทะเบียน 22,293,473 คน ที่ยื่นลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 จึงไม่ใช่จำนวน ‘คนจน’ ทั้งหมด แต่ด้วยเงื่อนไขที่เปิดโอกาสให้คนที่มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี หรือแม้แต่ผู้มีบ้าน มีวงเงินกู้สำหรับที่อยู่อาศัยรวมไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และมีเงินกู้สำหรับยานพาหนะรวมไม่เกิน 1 ล้านบาท สามารถลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ แต่หากรัฐบาลเลือกใช้เส้นความยากจนเป็นเกณฑ์ กำหนดรายได้ 33,624 บาท/คน/ปี หรือ 2,802 บาทต่อคน/ต่อเดือน จะทำให้การลงทะเบียนมีจำนวนลดลงทันที
น.ส.ทิพานัน ระบุว่า รัฐบาลต้องการช่วยเหลือดูแลประชาชน กลุ่มเปราะบางอื่น ๆ เช่น กลุ่มพิการ กลุ่มด้อยโอกาส กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มคนจน ให้สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำลง ให้ความช่วยเหลือค่าใช้จ่าย ให้ใช้บริการพื้นฐานของรัฐ และมีมาตรการใหม่ ๆ ใส่ในบัตรเพื่อดูแลตรงกลุ่ม ปี 2565 นี้ จึงประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง จนทำให้ประชาชนสนใจจำนวนมาก ที่สำคัญ ไม่มีคอรัปชั่นและสวัสดิการถึงมือประชาชน เป็นทุนชีวิต พร้อมกระตุ้นกำลังซื้อ ส่งผลกระทบต่อการผลิต ส่งผลต่อการจ้างงาน ทำให้ประเทศมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
“แต่สิ่งฝ่ายค้านและพรรคเพื่อไทยต้องพึ่งระวัง คือ หยุดด้อยค่าประชาชนจากสิทธิประโยชน์ที่ควรได้รับ หยุดดูถูกประชาชนที่ต้องการแบ่งเบาค่าใช้จ่าย หยุดตราหน้าประชาชนที่ลงทะเบียนว่าเป็น ‘คนจน’ ต้องเลิกบิดเบือนข้อมูลที่ศึกษามาไม่ครบถ้วนไม่ถูกต้อง แล้วนำไปสร้างวาทะกรรม ‘คนจนเพิ่มขึ้น’ จนสังคมและประชาชน 22,293,473 คน ที่ลงทะเบียน สงสัยในความชัดเจนว่า ฝ่ายค้านและพรรคเพื่อไทย ต้องการยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็ควรประกาศให้ชัดไปเลย” น.ส.ทิพานัน กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: