กรุงเทพฯ – รัฐบาล ย้ำ เตือนประชาชนตรวจสอบพื้นที่ปลอดภัย ก่อนปล่อยโคมลอย โคมควัน พลุ ตะไล บั้งไฟ ดอกไม้ไฟ ลูกโป่ง แสงเลเซอร์ จากประกาศของแต่ละจังหวัด
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ซึ่งบริหารสนามบินหลัก 6 แห่งของประเทศ ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ขอความร่วมมือประชาชน ระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการปล่อยวัตถุอันตรายขึ้นสู่ท้องฟ้า เช่น การปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน พลุ ตะไล บั้งไฟ ดอกไม้ไฟ ลูกโป่ง การปล่อยแสงเลเซอร์ และอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (Drone) ที่อาจเป็นอันตรายต่ออากาศยานและการมองเห็นของนักบิน โดยเฉพาะในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ (บริเวณสนามบินและโดยรอบสนามบิน)
ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2562 มาตรา 59/1 และ 59/2 มีโทษจำคุกและปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้ง พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 มาตรา 18 (2) ระบุว่า ผู้ใดกระทำการให้อากาศยานในระหว่างบริการเสียหาย จนเป็นเหตุให้อากาศยานนั้นไม่สามารถทำการบินได้หรือเป็นเหตุ หรือน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างบิน ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 600,000 บาท ถึง 800,000 บาท
นางสาวรัชดา กล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่นอกเขตปลอดภัยการเดินอากาศ ขอให้ผู้ที่ต้องการปล่อยโคมลอยฯ ตรวจสอบรายละเอียดในข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร หรือประกาศจังหวัดที่ต้องการจะปล่อย ซึ่งต้องขออนุญาตล่วงหน้าจากผู้อำนวยการเขตหรือนายอำเภอในพื้นที่นั้น ๆ ล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน
ข่าวน่าสนใจ:
โดยในพื้นที่ภาคเหนือ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ ออกประกาศไม่อนุญาตให้จุดและปล่อยโคมลอยฯ ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศและพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับ 1 (พื้นที่สีแดง) อย่างเด็ดขาด ใน 6 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมืองเชียงใหม่ ทุกตำบล, อำเภอหางดง ทุกตำบล, อำเภอสารภี 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลขัวมุง ดอนแก้ว ท่าวังตาล หนองผึ้ง และสันทราย, อำเภอแม่ริม 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลดอนแก้ว ริมใต้ แม่สา เหมืองแก้ว และริมเหนือ, อำเภอสันทราย 1 ตำบล คือ ตำบลหนองหาร และอำเภอสันป่าตอง 1 ตำบล คือ ตำบลทุ่งต้อม
ขณะเดียวกัน ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และ AOT ขอความร่วมมือสายการบินต่าง ๆ พิจารณาปรับเปลี่ยนเวลาทำการบิน ในช่วงเทศกาลลอยกระทง เพื่อลดความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยโคมลอย โดยระหว่างวันที่ 8 และ 9 พฤศจิกายน 2565 มีเที่ยวบินที่แจ้งยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเวลาการบิน รวม 69 เที่ยวบิน คิดเป็นร้อยละ 31 ของเที่ยวบินที่ทำการบินทั้งหมด ในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นเที่ยวบินยกเลิก 55 เที่ยวบิน และเปลี่ยนแปลงเวลาทำการบิน 14 เที่ยวบิน อย่างไรก็ตาม ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ยังเป็นสนามบินสำรองให้อากาศยานที่มีเหตุขัดข้องจำเป็นต้องขอลงจอดฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้น จึงไม่สามารถปล่อยโคมลอยในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศโดยเด็ดขาด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: