กรุงเทพฯ – โฆษกรัฐบาล แจงเนื้อหาและประโยชน์ ที่ประเทศไทยและประชาชนจะได้รับ จากการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค 2022
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 นายอนุชา บรูพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลไทยเตรียมตัวมายาวนานตั้งแต่ปี 2563 ตั้งแต่รับทราบวาระการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียและแปซิฟิก หรือ เอเปค 2022 ของไทย
โดยกระทรวงต่างประเทศ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของรัฐบาลและเอกชน ได้ทำงานและเตรียมการอย่างหนัก ด้วยความตระหนักถึงผลลัพธ์ว่าการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคจะสร้างประโยชน์ให้ประชาชนคนไทย มากที่สุดได้อย่างไร รัฐบาลไทยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ในการกำหนดหัวข้อหลัก ให้ไทยได้ประโยชน์มากที่สุด จึงเป็นที่มาของการกำหนดหัวข้อหลักของการประชุมครั้งนี้ คือ ‘เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล’ หรือ ‘Open. Connect. Balance.’
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการและกำกับการทำงาน ให้คำนึงถึงหลักการที่สำคัญ ดังนี้
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง คู่ซี้ พระ-ฆราวาส เมาแอ๋ด่าทอชาวบ้านใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อาละวาดอ้างมีปืน ทำชาวบ้านแตกตื่น ตร.หิ้วปีกบังคับสึก กร่างไม่เลิกบอกรู้จักพระผู้ใหญ่
- ปิดตำนานนักเขียน "ตรี อภิรุม" ศิลปินแห่งชาติฯ เจ้าของผลงาน "นาคี"
- ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีฯ จัดกิจกรรม"วันกิมจิ"เผยแพร่การทำกิมจิ ผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 700 คน
- กทม. ร่วม"ฟูกูโอกะ" เปิดงาน "Fukuoka Fair" ฉลอง 18 ปีเมืองพี่เมืองน้อง
1.ประเด็นในการหารือเพื่อจะส่งผลให้ช่วยส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ธุรกิจทั้งรายเล็กรายใหญ่ได้เข้าถึงประโยชน์จากระบบเศรษฐกิจยุคใหม่ได้อย่างเต็มที่ การเร่งฟื้นฟูการเดินทางภายหลังวิกฤตโควิด-19 เพื่อประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคบริการและการท่องเที่ยวซึ่งเป็นหัวใจของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย การส่งเสริมเศรษฐกิจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยั่งยืน และมีความรับผิดชอบผ่านโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งจะสร้างประโยชน์ให้เศรษฐกิจไทยในระยะยาว
2.หาช่องทางให้ไทยได้แสดงศักยภาพ และความพร้อมให้โลกได้เห็นผ่านความสำเร็จในการจัดประชุมตลอดทั้งปี ซึ่งไทยต้องจัดการประชุมท่ามกลางความท้าทาย ทั้งที่เกี่ยวข้องกับ โควิด-19 และสถานการณ์โลกที่ผันผวน โดยเฉพาะการประชุมผู้นำเอเปคครั้งนี้ ที่จะเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่จัดแบบพบหน้า เป็นโอกาสให้ผู้นำเอเปคได้เดินทางมาพบหน้ากัน
3.หาโอกาสและช่องทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และดึงดูดนักท่องเที่ยวโดยในสัปดาห์การประชุมเอเปคจะมีผู้นำ และผู้แทนจากต่างประเทศเดินทางมาเยือนไทยประมาณ 3,000 คน และสื่อต่างชาติอีกกว่า 2,000 คน ซึ่งทุกคนจะได้เห็นศักยภาพของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน นำไปสู่โอกาสการค้าและการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น
นายอนุชา กล่าวต่อว่า การเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งนี้ ยังจะเป็นโอกาสในการนำเสนอภาพความโดดเด่นทางวัฒนธรรม อาหาร การแสดง และเอกลักษณ์ความสวยงามของไทยจะถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก ซึ่งในการประชุมผู้นำเอเปคครั้งนี้ ยังมีการประชุมที่เกี่ยวข้องอีกหลายรายการ อาทิ APEC CEO summit, ABAC, APEC SME ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ไทยได้ต้อนรับผู้นำจากหลายประเทศ ทั้งที่เป็นผู้นำเขตเศรษฐกิจ และเป็นแขกพิเศษ ได้แก่ มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย และประธานาธิบดีฝรั่งเศส
การประชุมเอเปคครั้งนี้ จะมีการลงนามความตกลงทวิภาคี ที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยอีกหลายฉบับ เป็นโอกาสให้รัฐบาลได้นำเสนอวิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่นตั้งใจในการส่งเสริมความยั่งยืน นวัตกรรม ควบคู่ไปกับศิลปวัฒนธรรมที่งดงาม โดยการประชุมนี้จะจัดแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ green meeting เช่น รถยนต์ที่ใช้รับรองผู้นำก็จะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในส่วนของการประชุมจะลดการใช้กระดาษให้มากที่สุด นำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในการตกแต่งสถานที่ และขยะพลาสติกในงานจะถูกนำไปเข้ากระบวนการรีไซเคิล
“รัฐบาลและผู้บริหารของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชาสัมพันธ์ โอกาส ประโยชน์ รูปแบบ และความพร้อมของการจัดการประชุมเอเปค 2022 อย่างต่อเนื่อง ทั้งประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไชต์ โซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์ม และช่องทางการนำเสนอต่าง ๆ ทั้งนี้เพื่อประชาสัมพันธ์บทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศ และเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในประเทศรับรู้ ซึ่งขอย้ำแนวทางการทำงานของรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนไทยทุกคนได้รับประโยชน์สูงสุด” นายอนุชา กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: