กรุงเทพฯ – บริษัทในกลุ่ม กฟผ. และกระทรวงการลงทุน ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพลังงานสะอาด ก้าวไปสู่สังคมพลังงานสีเขียว ด้วยเป้าหมายการลดคาร์บอน
นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 กระทรวงการลงทุน แห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย (MISA) โดย Mr.Fahad J. Alnaeem Ministry Deputy for Investments Development และบริษัทในกลุ่ม กฟผ. ได้แก่ บริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO Group), นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (RATCH Group), นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล บริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (EGATi), นายบัณฑิต อัมพรศรีสุภาพ และ บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด (INNOPOWER) นายอธิป ตันติวรวงศ์
ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านพลังงานสะอาด (Clean Energy) การเปลี่ยนผ่านพลังงานดั้งเดิมไปสู่พลังงานสะอาด (Energy Transition) รวมถึงระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) การให้บริการงานเดินเครื่องและบำรุงรักษา (Operation & Maintenance Service) และการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอน (Decarbonization) ของทั้งสองประเทศ (Memorandum of Understanding between the Ministry of Investment of the Kingdom of Saudi Arabia and EGAT Group; EGCO RATCH EGATi INNOPOWER, in the fields of various types of clean energy and energy transition : MOU)
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ในฐานะผู้แทนกลุ่ม กฟผ. ระบุว่า ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นอีกแรงขับเคลื่อนในการเปลี่ยนผ่านจากพลังงานดั้งเดิม ไปสู่พลังงานสะอาด เพื่อเป้าหมาย Carbon Neutrality ของประเทศ การเปลี่ยนผ่านนี้เป็นความท้าทายของทั้งสองประเทศ พลังความร่วมมือที่สำคัญของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และประเทศไทย เป็นหนึ่งในจุดเริ่มสำคัญที่จะทำให้นโยบาย Decarbonization เห็นผลเป็นรูปธรรมเร็วขึ้น ประชาชนทั้ง 2 ประเทศ มีโอกาสในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์พลังงานสะอาดเพิ่มขึ้น ท้ายที่สุดความร่วมมือในวันนี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการก้าวไปสู่สังคมพลังงานสีเขียว เป้าหมายการลดคาร์บอน ตามที่มุ่งหวังในอนาคต
ข่าวน่าสนใจ:
Mr.Fahad J. Alnaeem กล่าวขอบคุณกลุ่ม กฟผ. ที่ให้ความเชื่อมั่นลงนาม MOU กับ MISA โดยมีเป้าหมายส่งเสริมพลังงานสะอาดและการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน ความร่วมมือครั้งนี้ 2 ประเทศจะเดินหน้าไปพร้อม ๆ กัน เพื่อบรรลุเป้าหมายตาม MOU ที่ผ่านมา ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
เป็นประเทศที่เน้นการใช้พลังงานจากน้ำมันเป็นหลัก แต่มีเป้าหมายเปลี่ยนผ่านสังคมพลังงานของประเทศไปสู่ Clean Energy ภาใน ค.ศ.2030
ขณะนี้มีการลงทุนใน Green Hydrogen Plant ที่มีกำลังการผลิต 650 ตันต่อวัน มีเป้าหมายการใช้พลังงานผสมผสาน (Energy Mix)
ใช้ Renewable Energy ร้อยละ 50 ในประเทศ อีกทั้งยังมี Mega Project – Neom City of the Future ที่จะเป็น Smart City Technologies โดยใช้ Renewable Energy ร้อยละ 100 ทั้งเมือง
นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการใช้ Electric Vehicle (EV) โดยมีโรงงานผลิตรถ EV ของประเทศ ด้วยความมุ่งมั่นในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานนี้ MISA มีความยินดีในความร่วมมือกับกลุ่ม กฟผ. ในฐานะพันธมิตรที่สำคัญในการผลักดันความร่วมมืออย่างยั่งยืน และประสบผลความสำเร็จทางธุรกิจในอนาคต
“การลงนามบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ เป็นประตูที่สำคัญของกลุ่ม กฟผ. ที่จะเข้าไปดำเนินธุรกิจ ลงทุน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม กับภาครัฐและภาคเอกชนของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาความสัมพันธ์กับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งต่อไปอีกด้วย” นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร กล่าวปิดท้าย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: