กรุงเทพฯ – คณะรัฐมนตรี เดินหน้าเศรษฐกิจ BCG ต่ออายุโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากด้วย BCG อีก 6 เดือน (1 ตุลาคม 2565 – 31 มีนาคม 2566) โดยใช้งบเดิมที่เหลือ
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบขยายระยะเวลาดำเนินการ โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG ออกไปอีก 6 เดือนเริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 – 31 มีนาคม 2566 ทำให้โครงการมีระยะเวลารวมทั้งสิ้น 9 เดือน (จากเดิมที่กำหนดไว้ 3 เดือน ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2565) โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณเดิมที่ได้รับอนุมัติไว้ 3,565.84 ล้านบาท ซึ่ง ณ วันที่ 10 กันยายน 2565 ใช้จ่ายไปแล้ว 2,701.61 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 75.76) ของงบประมาณโครงการทั้งหมด
โครงการนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ
1.เพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและบริการด้านBCG ในพื้นที่ ด้วยองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม
2.เพิ่มการจ้างงานบัณฑิตจบใหม่และประชาชนในพื้นที่
ข่าวน่าสนใจ:
3.พัฒนากำลังคนให้มีทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการทำงานในปัจจุบัน และทักษะที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ
4.พัฒนาฐานข้อมูล Thailand Community Big Data ให้มีความสมบูรณ์ครอบคลุมในทุกพื้นที่ของประเทศ
มีกลุ่มเป้าหมายของโครงการ คือ บัณฑิตจบใหม่ไม่เกิน 5 ปี ผู้ที่ถูกเลิกจ้างหรือประชาชนในพื้นที่ครอบคลุม 7,435 ตำบลทั่วประเทศ
ผลการดำเนินการโครงการที่ผ่านมา มีผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ 64,428 คนคิดเป็นร้อยละ 94.26 จากเป้าหมาย 68,350 คน มีสถาบันอุดมศึกษา 98 แห่ง ทำหน้าที่เป็นผู้บูรณาการระบบในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG ในแต่ละพื้นที่ให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน
นางสาวรัชดา กล่าวอีกว่า การดำเนินโครงการในช่วง 6 เดือนต่อจากนี้ จะเป็นการพัฒนาต่อยอดผลลัพธ์ของโครงการในช่วง 3 เดือนแรก ได้แก่
1.การพัฒนา ส่งเสริมและผลักดันผลิตภัณฑ์และบริการ BCG ของชุมชนอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
2.การพัฒนา Platform เพื่อผลักดันผลที่ได้รับจากการดำเนินกิจกรรมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG ของ 7,435 ตำบล สู่การพัฒนาด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม และการผลักดันสินค้าและบริการออกสู่ตลาด ผ่านช่องทางการจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ให้กับตำบล (U2T Market Place Platform)
3.การจัดทำ TDC และการวิเคราะห์ข้อมูล
และ 4.การติดตามและประเมินผลการดำเนินการโครงการ
“การดำเนินนโยบาย BCG ของรัฐบาล เป็นไปเพื่อสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม ผู้ประกอบการทุกขนาด รวมถึงชุมชนระดับฐานราก โดยต้องเป็นไปอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมเอเปค 2022 คาดการณ์ว่า จะมีการลงทุนภายใต้นโยบาย BCG ที่จะเกิดขึ้นตามมาในระยะต่อๆ ไปมากกว่า 6 แสนล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจะเร่งยกระดับศักยภาพชุมชนและประชาชน เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากโอกาสนี้อย่างเต็มที่” นางสาวรัชดา กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: