คืนนี้… ไปเที่ยววัดกันมั้ย? ใครได้ยินคำถามนี้คงคิดไปถึงเทศกาลงานบุญงานวัดต่าง ๆ แต่วันนี้อยากจะชวนทุกคนไปเปิดมุมมองการท่องเที่ยววัดยามค่ำคืนแนวใหม่กับ ‘เชียงใหม่ Light Up’ ด้วยการออกแบบและติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่าง ที่ทำให้วัดสว่างไสว สวยงาม เกิดมุมมองและมิติใหม่ ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิม เพื่อต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติหลังวิกฤตโควิด-19
‘เชียงใหม่’ เมืองท่องเที่ยวสำคัญที่เป็นจุดหมายปลายทางของใครหลาย ๆ คน เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งธรรมชาติ ประเพณี วัฒนธรรม รวมถึงศาสนสถานมากมาย ซึ่ง 1 ในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ คือ ถนนคนเดินท่าแพ ที่จัดขึ้นทุกวันอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่ประตูท่าแพ ทอดยาวออกไปทางถนนราชดำเนินจนถึงวัดพระสิงห์ แหล่งรวมร้านค้าขายสินค้าและอาหารพื้นเมืองตลอดสองข้างทางของถนนคนเดิน แต่น้อยคนนักจะรู้ว่า บนถนนที่แสนจะคึกคักยามค่ำคืนสายนี้จะเต็มไปด้วยวัดสำคัญ ๆ ที่มีความสวยงามอันทรงคุณค่า หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน จึงร่วมมือกันยกระดับ 7 วัดบนถนนสายนี้ ด้วยการติดตั้งไฟ LED ส่องสว่างให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมยามค่ำคืนที่สวยงาม จะสวยงามมากแค่ไหนตามไปดูกัน…
7 วัดนำร่องสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมยามค่ำคืน
เมื่อเราก้าวเข้าสู่ถนนคนเดินท่าแพ สายตาจะปะทะกับร้านค้ามากมายตลอดสองข้างทาง ทั้งนักท่องเที่ยวและบรรยากาศคึกคักที่หายไปเกือบสองปี กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ด้านขวามือเราจะพบกับ
‘วัดหมื่นล้าน’ เมื่อได้ลองเดินเข้าไปภายในวัด นอกจากจะตื่นตาตื่นใจกับร้านรวงมากมายแล้ว ก็ต้องตกตะลึงกับความสวยงามสว่างไสวของเจดีย์และลวดลายหน้าบันของวิหาร ศิลปะแบบพม่า สะท้อนแสงไฟจาก LED จนอดใจไม่ได้ที่จะต้องหยิบมือถือขึ้นมาเก็บภาพตรงหน้า ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย วัชราสน์ (ขัดสมาธิเพชร) อายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ผู้คนหลั่งไหลมากราบไหว้ด้วยแรงศรัทธาและหวังร่ำรวยเหมือนชื่อวัด
เดินต่อไปฝั่งตรงข้าม บรรยากาศคึกคักไม่แพ้กันกับ ‘วัดพันอ้น’ ร้านค้ามากมายเปิดรายล้อมเจดีย์สีทองเหลืองอร่ามทรงแปดเหลี่ยม ซึ่งภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ อุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง เจดีย์สีทองส่องสว่างด้วยไฟ LED เผยให้เห็นรอยยิ้มแห่งความหวังของบรรดาพ่อค้าแม่ค้า และความสุขใจของนักท่องเที่ยว
เดินต่อไปอีกนิดจะถึง ‘วัดสำเภา’ แสงไฟส่องสว่างให้เห็นวิหารศิลปะล้านนาอย่างเด่นชัด ตัวอาคารตั้งอยู่บนฐานยกสูง หลังคาซ้อนกันสามชั้น หน้าบันตลอดจนตัวเสาประดับด้วยลายปูนปั้นเป็นรูปเทวดา ลายพรรณพฤกษาและสัตว์ต่างๆ บันไดทางขึ้นเป็นมกรคายนาค ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยงดงามสะกดสายตา
เดินเล่น ชิม ช้อป ของพื้นเมืองไปเรื่อย ๆ แล้วเลี้ยวซ้ายไปถึง ‘วัดพันเตา’ ชมวิหารหอคำไม้สัก ภายในประดิษฐานพระเจ้าปันเต้า (พันเท่า) เป็นที่เคารพนับถือของชาวเชียงใหม่ ด้วยมีความหมายอันเป็นมงคลว่า “มีความสำเร็จเพิ่มพูนเป็นร้อยเท่าพันเท่า” ด้านหลังวิหารหอคำ คือ เจดีย์ทรงระฆังบนฐานแปดเหลี่ยม รายล้อมด้วยเหล่าเจดีย์สีทองส่องสว่าง
เมื่อเดินต่อมาตามถนนราชดำเนิน ที่เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย จะพบกับ ‘วัดชัยพระเกียรติ’ ด้วยแสงไฟที่ส่องสว่างพระวิหาร เผยให้เห็นหน้าบันประดับด้วยลายปูนปั้นพรรณพฤกษาสีทองบนพื้นกระจกสีน้ำเงิน กลางหน้าบันเป็นรูปเทพพนม บันไดมีสิงห์ปูนปั้นสองตัวตั้งไว้เป็นทวารบาล ภายในประดิษฐาน “พระพุทธรูปเมืองราย” ที่มีความเชื่อกันว่าผู้ใดมาสักการะกราบไหว้จะรอดพ้นจากภัยอันตรายต่าง ๆ และมีชัยในสิ่งที่หวัง
แม้จะเกือบสุดเส้นถนนคนเดิน ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ร้านค้าและนักท่องเที่ยวก็ไม่ได้ลดน้อยลง ยังคงคึกคักและสว่างไสวไปตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะภายใน ‘วัดทุงยู’ ที่เราจะได้เห็นอุโบสถศิลปะล้านนา สร้างด้วยคอนกรีตหินอ่อนลงรักปิดทอง เครื่องบนมีช่อฟ้าใบระกา ทาด้วยไม้สักปิดทองที่ได้รับการบูรณะใหม่ เสียงลือว่าหลวงพี่ที่วัดแห่งนี้ดูดวงแม่นยำนัก คงต้องลองไปสักครั้ง
และสุดถนนคนเดินยังมี ‘วัดศรีเกิด’ ที่ภายในวัดคราคร่ำไปด้วยร้านค้าและผู้คนมากมาย ที่เข้าไปเลือกซื้อสินค้าและชมความงามของพระวิหาร ภายในประดิษฐานพระเจ้าแข้งคมเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ขัดสมาธิราบหล่อขึ้นจากสัมฤทธิ์ลงรักปิดทอง ในวัดมีต้นศรีมหาโพธิ์ พันธุ์มาจากต้นโพธิ์ที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าที่ประเทศอินเดียเป็นที่เคารพบูชาของศาสนิกชนจำนวนมาก
เที่ยววัดปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้พบกับความสวยงามยามค่ำคืนของทั้ง 7 วัด บนเส้นทางถนนคนเดินท่าแพแล้ว ไฟฟ้าส่องสว่างดังกล่าวยังช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยภายในวัดอีกด้วย ด้วยการติดตั้ง LED 3 ประเภทที่เป็นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คือ LED Floodlight, LED Street-Light และ Solar LED Street-Light รวม 106 โคม โดยสามารถเปิด-ปิดไฟผ่าน Mobile Application ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้กว่า 57,800 หน่วยต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ได้ถึง 30 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี
เจ้าอาวาสวัดทุงยู พระครูสมุห์ บุญเรือง โชติบุญโญ เปิดไฟผ่าน Mobile Application
“ไม่เคยเที่ยววัดกลางคืนมาก่อน พอเข้ามาเห็นแล้ว สวยงาม แปลกตามาก ทำให้อยากมาเที่ยว เพราะรู้สึกปลอดภัยไม่น่ากลัวเหมือนวัดทั่วไป” นักท่องเที่ยวได้บอกกับเรา
‘เชียงใหม่ Light Up’ เป็นโครงการที่ กฟผ. ร่วมกับพันธมิตร มุ่งพัฒนาวัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในระดับสากล ส่งเสริม ฟื้นฟู แหล่งท่องเที่ยวทั้ง ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และสร้างความปลอดภัยภายในวัด ด้วยไฟส่องสว่างสวยงามยามค่ำคืน โดยติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่างประสิทธิภาพสูง นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมความงดงามยามค่ำคืนของวัดทั้ง 7 แห่ง ได้ทุกวันอาทิตย์ และวันสำคัญทางศาสนา ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป
ลองมาเที่ยววัดกลางคืน พร้อมเช็คอินถ่ายรูปสวย ๆ ที่ไม่วังเวง อีกต่อไป…
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: