กรุงเทพฯ – การรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทาง รถไฟทางไกลสายเหนือ ใต้ และอีสาน ไปยังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ 19 มกราคมนี้ พร้อมเป็นสถานีรถไฟใหญ่สุดในอาเซียน รองรับการเดินทาง และแก้ปัญหาจราจร
วันที่ 17 มกราคม 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทาง ขบวนรถไฟทางไกล สายเหนือ ใต้ และอีสาน ทั้งขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว จำนวน 52 ขบวน มาที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
โดยจุดจำหน่ายตั๋วโดยสาร จะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2566 นี้ ณ บริเวณทางเข้าประตูที่ 4 และบริเวณจุดเชื่อมต่อ รถไฟฟ้าสายสีแดงและรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ชั้น G ซึ่งมีช่องจำหน่ายตั๋วให้บริการทั้งหมด 18 ช่อง รองรับการบริการให้แก่ผู้โดยสารอย่างทั่วถึง
สำหรับบริเวณจุดพักคอย เฉพาะผู้โดยสารที่มีตั๋วโดยสารรถไฟทางไกล สามารถรอขึ้นรถไฟทางไกลได้ภายในบริเวณโถงด้านล่างสถานี เพื่อรอขึ้นขบวนรถบนชานชาลา ก่อนเวลาขบวนรถออก 20 นาที เมื่อขบวนรถจอดเทียบแล้ว อนุญาตให้ผู้โดยสารเข้าสู่บริเวณชานชาลาได้
จุดให้บริการชานชาลาของรถไฟทางไกล ของสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จะอยู่ชั้นที่ 2 บริเวณประตู 4 มี 12 ชานชาลา แบ่งออกเป็น
1.รองรับรถไฟทางไกล 8 ชานชาลา คือ
ชานชาลาที่ 1 และ 2 สำหรับรถไฟสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ (ขาออก)
ชานชาลาที่ 5 และ 6 สำหรับรถไฟสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ (ขาเข้า)
ชานชาลาที่ 7 และ 8 สำหรับรถไฟสายใต้ (ขาออก)
ชานชาลาที่ 11 และ 12 สำหรับรถไฟสายใต้ (ขาเข้า)
2.รองรับระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง 4 ชานชาลา คือ
ชานชาลาที่ 3 และ 4 สำหรับเส้นทางบางซื่อ-รังสิต
ชานชาลาที่ 9 และ 10 สำหรับเส้นทางบางซื่อ-ตลิ่งชัน
“การรถไฟแห่งประเทศไทย ยังให้สิทธิ์ผู้โดยสารที่ใช้ตั๋วขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว รถธรรมดา และตั๋วเดือน สามารถใช้ตั๋วดังกล่าวเข้าใช้บริการขึ้น-ลง รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ภายในระยะเวลา 1 ปี (ตามเงื่อนไข) ส่วนผู้โดยสารที่ใช้บริการขบวนรถชานเมือง สามารถใช้ตั๋วเดือนเข้าใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม (ตามเงื่อนไข) ทั้งนี้ ไม่มีการจำหน่ายตั๋วรถไฟทางไกล ที่สถานีจตุจักร วัดเสมียนนารี บางเขน ทุ่งสองห้อง หลักสี่ การเคหะ และสถานีหลักหก สอบถามเพิ่มเติม โทร.1690” นางสาวรัชดา กล่าว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า รัฐบาลเดินหน้ายกระดับให้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (บางซื่อ) เป็นศูนย์กลางการคมนาคมและการขนส่งทางรางของประเทศ และเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน รวมถึงเป็นศูนย์กลางการคมนาคมแห่งใหม่ เทียบเท่าสถานีรถไฟชั้นนำของโลก พร้อมพัฒนาพื้นที่โดยรอบ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในเชิงพาณิชย์และพัฒนาเมืองในรูปแบบใหม่ เพื่อให้เกิดการกระตุ้นและขยายธุรกิจและเศรษฐกิจในพื้นที่ ส่งเสริมให้เกิดการกระจายโอกาสในด้านต่าง ๆ สู่ประชาชน ทั้งในด้านของการสร้างงาน สร้างอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นเป้าหมายที่รัฐบาลได้ดำเนินการในการมุ่งพัฒนาประเทศอย่างบูรณาการ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: