กรุงเทพฯ – ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย จ.สมุทรสงคราม วิกฤติ PM 2.5 เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขแล้ว อีก 23 จังหวัด รวมกรุงเทพฯ เตรียมเปิด แนะประชาชนตรวจสอบค่าฝุ่นและปรับกิจกรรมการดำเนินชีวิต พร้อมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่น
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า สถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ของประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จึงกำชับให้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากจังหวัดใดที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 เกิน 51 มคก./ลบ.ม. ติดต่อกันเกิน 3 วัน ให้พิจารณาเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์อย่างเป็นระบบ
ส่วนจังหวัดที่มีค่า PM 2.5 ระหว่าง 37.6-50 มคก./ลบ.ม. ให้เปิดศูนย์บัญชาการสถานการณ์ (OC) ระดับจังหวัดรองรับ รวมถึงให้เร่งรัดสื่อสารความรู้แก่ประชาชนในการป้องกันตนเองจากฝุ่น PM 2.5 แจ้งเตือนถึงความเสี่ยงและผลกระทบทางสุขภาพ
โดยขณะนี้มี 24 จังหวัด ที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แพร่ พะเยา พิษณุโลก สุโขทัย นครสวรรค์ อุทัยธานี นนทบุรี ปทุมธานี ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง สระแก้ว ขอนแก่น และกรุงเทพมหานคร ซึ่งจังหวัดสมุทรสงคราม ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการฯ แล้ว ส่วนอีก 23 จังหวัด อยู่ระหว่างเฝ้าระวังสถานการณ์และเตรียมเปิดศูนย์ปฏิบัติการฯ
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวด้วยว่า จากรายงานสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 24 มกราคม 2566 พบผู้ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ รวม 212,674 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 96,109 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโรคทางเดินหายใจ กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ กลุ่มโรคตาอักเสบ ได้ให้สถานพยาบาลทุกแห่งเตรียมความพร้อม ยาและเวชภัณฑ์ เพื่อรองรับการดูแลผู้ป่วยจากปัญหามลพิษทางอากาศแล้ว
ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ฝุ่นในพื้นที่ จากแอปพลิเคชัน Air4Thai พร้อมปรับกิจกรรมการดำเนินชีวิตประจำวัน หากค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน ขอให้ลดกิจกรรม/การออกกำลังกายกลางแจ้ง หากต้องอยู่ในพื้นที่ค่าฝุ่นสูง ควรใส่หน้ากากชนิด N95 และไม่ควรอยู่เป็นเวลานาน สำหรับประชาชนทั่วไป สามารถใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้
ส่วนอาการที่เกิดจากผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 อาทิ แสบตา แสบจมูก อึดอัด แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก ปวดศีรษะ อาเจียน ระคายเคืองผิวหนัง ซึ่งหากอาการไม่ทุเลาควรไปพบแพทย์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: