กรุงเทพฯ – ‘วาเลนไทน์’ รักปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพทางออนไลน์ เผย สถิติอาชญากรรมออนไลน์ ม.ค.66 พบคดีเกี่ยวกับการหลอกให้รักสูงถึง 403 คดี แนะ คู่รักใช้ถุงยางอนามัย ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์-ท้องไม่พร้อม
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรัก เป็นวาระสำคัญที่คนทุกกลุ่มทุกวัย จะส่งมอบความรักและความปรารถดีแก่กัน แต่เนื่องจากปัจจุบันมีภัยรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะมิจฉาชีพที่แอบแฝงในโลกออนไลน์ ซึ่งจำนวนมากใช้ความรักหรือความอ่อนไหวของเป้าหมายหลอกลวง ทั้งประสงค์ต่อทรัพย์ และอาจนำไปสู่การทำร้ายร่างกาย
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยสถิติอาชญากรรมออนไลน์ประจำเดือน ม.ค.66 จากศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ พบคดีเกี่ยวกับการหลอกให้รักยังสูงถึง 403 คดี แบ่งเป็น คดีประเภทหลอกลวงให้รักแล้วโอนเงิน 168 เรื่อง และคดีหลอกลวงให้รักแล้วลงทุน 235 เรื่อง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 190 ล้านบาท
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ภัยออนไลน์เกี่ยวกับความรัก (Romance Scams) มีการใช้เทคนิคทางจิตวิทยา พัฒนาความสัมพันธ์กับเป้าหมาย สร้างความเชื่อใจระหว่างบุคคล แล้วหลอกลวงด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น หลอกให้รักแล้วโอนเงิน หลอกให้รักแล้วชวนลงทุน หลอกให้รักแล้วกดลิงก์/ดาวน์โหลดแอปรีโมต ควบคุมสมาร์ตโฟนและดูดเงินในบัญชี หรือหลอกให้รักแล้วแบล็กเมล ด้วยการชวนทำกิจกรรมทางเพศผ่านทางออนไลน์ แล้วนำภาพหรือวิดีโอมาขู่เรียกค่าไถ่ หรือบีบบังคับให้กระทำการอื่น ๆ
หากสงสัยหรือกำลังเกรงว่า ตนเองอาจกำลังตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ สามารถปรึกษาได้ที่
สายด่วน บช.สอท.1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-8663000
หากเป็นผู้เสียหายประสงค์จะแจ้งความ สามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com
และสามารถติดตามรูปแบบการประชาสัมพันธ์กลโกงต่าง ๆ ได้ที่ pctpr.police.go.th
นางสาวไตรศุลี กล่าวอีกว่า ในเทศกาลวันแห่งความรัก ยังเป็นโอกาสที่คู่รักจะใช้เป็นช่วงเวลาในการแสดงออกถึงความรักในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ กระทรวงสาธารณสุข มีข้อแนะนำให้ประชาชนเห็นความสำคัญ ของการป้องกันโรคที่มาจากเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อเอชไอวี หรือโรคอื่น ๆ เช่น ซิฟิลิส โรคหนองใน โรคหนองในเทียม โรคแผลริมอ่อน โรคกามโรคของต่อมและท่อน้ำเหลือง และโรคเริม
อย่างไรก็ตาม โรคดังกล่าวสามารถป้องกันได้ โดยการใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีข้อแนะนำว่า ถุงยางอนามัยจัดเป็นเครื่องมือแพทย์ ที่ต้องมีใบอนุญาตหรือใบรับแจ้งรายการละเอียดในการผลิตหรือนำเข้า ดังนั้น ควรเลือกซื้อถุงยางอนามัยที่มีเลขใบอนุญาตเครื่องมือแพทย์หรือใบรับแจ้งรายการละเอียด ซึ่งรับรองจาก อย. สังเกตดูวันที่ผลิต วันหมดอายุก่อนซื้อ และใช้ตามคู่มือแนะนำของผลิตภัณฑ์ เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพ และให้ถุงยางอนามัยคงประสิทธิภาพสูงสุด
