กรุงเทพฯ – ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เสียใจ ‘สารวัตรกานต์’ เสียชีวิต ยืนยัน ปฏิบัติการตามแผนยุทธวิธี ที่ใช้กระสุนจริง เพราะผู้ก่อเหตุยิงตอบโต้ ระบุ ไม่ได้เครียดจากเรื่องงาน คาด เป็นสภาวะทางจิต พร้อมเร่งตรวจสอบปมเสพกัญชา
วันที่ 16 มีนาคม 2566 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แสดงความเสียใจต่อญาติของ พ.ต.ท.กิตติกานต์ แสงบุญ สารวัตรสันติบาล ซึ่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาลภูมิพลฯ หลังคลุ้มคลั่งยิงปืนในบ้านพัก ย่านซอยสายไหม 46 และยิงตอบโต้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นยากต่อการเจรจา ตำรวจได้พยายามทุกวิถีทางในการระงับเหตุแล้ว แต่สารวัตรกานต์ ไม่มีท่าทีสงบ และไม่ยอมวางอาวุธ ชุดปฏิบัติการจึงตัดสินใจเข้าจับกุม
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า ชุดอรินทราช 26 ใช้กระสุนจริงในการปฏิบัติการ เนื่องจากสารวัตรกานต์มีอาวุธที่เป็นกระสุนจริงอยู่ และโต้ตอบเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา ชุดปฏิบัติการจึงจำเป็นต้องมีอาวุธที่เท่าเทียมกับผู้ก่อเหตุ แต่ก็มีทั้งกระสุนยาง และปืนไฟฟ้า ใช้ร่วมด้วย โดยขั้นตอนการปฏิบัติเป็นไปตามแผนกรกฎ ซึ่งมอบหมายให้ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์
ส่วนที่พบรอยกระสุนตามร่างกาย ถึง 6 จุดนั้น อยู่ระหว่างให้แพทย์ชันสูตรศพให้ละเอียดก่อนว่า เป็นการเสียชีวิตจากสาเหตุใด
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า การเจรจาตลอดทั้ง 2 วัน ก่อนเข้าปฏิบัติการ ได้ประเมินร่วมกับ แพทย์จิตเวช กรมสุขภาพจิต อยู่ตลอด เพื่อวางแผนเข้าระงับเหตุ แต่ด้วยสภาวะความเครียดของสารวัตรกานต์ ที่ไม่ยอมรับข้อเสนอทั้งหมด แม้กระทั่งตนเองโทรศัพท์พูดคุยด้วยภาษาเหนือแล้ว แม้ในช่วงแรกจะไว้ใจแล้ว แต่ยังไม่ยอมวางอาวุธและพูดจาไม่รู้เรื่อง จึงตัดสินใจเข้าปฏิบัติการ
ทั้งนี้ สาเหตุที่สารวัตรกานต์คลุ้มคลั่ง น่าจะมาจากสภาวะจิตที่ไม่ปกติ ทราบว่า ก่อนหน้านี้ รักษาตัวที่โรงพยาบาลใน จ.เชียงใหม่ และปกปิดอาการ ส่วนเรื่องความเครียดในการทำงานน่าจะไม่มี เพราะผ่านเกณฑ์การทดสอบทางจิตใจมาแล้ว สำหรับการโยกย้ายมาปฏิบัติงานด้านการข่าว ของตำรวจสันติบาล เมื่อวันที่ 15 ก.พ.66 ที่ผ่านมา ก็เป็นความสมัครใจ เนื่องจากเป็นงานที่ถนัดกว่างานที่อยู่กองบัญชาการศึกษา และเพิ่งมีอาการผิดปกติ 5 วัน ก่อนเกิดเหตุ ที่ไม่มาปฏิบัติราชการ ผู้บังคับบัญชาจึงโทรศัพท์ไปสอบถาม พบพูดจาผิดปกติ จึงให้แพทย์ไปรับตัวจากที่บ้านมารักษา แต่ถูกปฏิเสธและโต้ตอบกลับด้วยอาวุธ
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบประวัติการเสพกัญชา เนื่องจากพบอุปกรณ์และต้นกัญชาอยู่ภายในบ้าน
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยด้วยว่า หลังจากเกิดเหตุกราดยิงที่ จ.หนองบัวลำภู ได้มีการคัดกรองสภาพจิตของตำรวจทั่วประเทศไปแล้ว แต่ยังพบตำรวจอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เข้าข่ายมีอาการทางจิตและประสาท หลังจากนี้ จะกำหนดมาตรการให้เข้มข้นขึ้น และได้สั่งประชุมเพื่อสำรวจ คัดกรอง ตำรวจกลุ่มเสี่ยง ในวันจันทร์ที่ 20 มี.ค.66 นี้
สำหรับการเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ตำรวจในพื้นที่สำรวจความเสียหาย และพร้อมจะให้เงินช่วยเหลือบ้านข้างเคียงที่ได้รับผลกระทบทุกราย รวมถึงช่วยเหลือบญาติผู้เสียชีวิตตามสิทธิ์ที่จะได้รับอย่างเต็มที่ด้วย
