กรุงเทพฯ – นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ เผย นโยบายเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ พุ่งเป้าช่วยเหลือกลุ่มคนที่จำเป็น ไม่เน้นเหวี่ยงแห พร้อมสานต่อสิ่งที่ทำในรัฐบาลนี้ โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงความพร้อมในการเป็น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ถ้าเป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ก็เป็นไปได้ตามกติกาของพรรค ลงมาตรงนี้แล้วก็ต้องทำให้เต็มที่ที่สุด
ส่วนนโยบายเศรษฐกิจของพรรคนั้น ตนเองแค่มาสนับสนุนในสิ่งที่วางรากฐานระบบไว้ เพราะ ม.ล.ชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ จัดทำไว้แล้ว รทสช.ทำการบ้านมา 2 ปีกว่า จากนี้จะมีอะไรดี ๆ ออกมาอีกหลายอย่าง เพราะทำงานเชิงรุก โดยนโยบายจะไม่เน้นการช่วยเหลือแบบเหวี่ยงแห แต่มุ่งเป้าและการส่งเสริมอะไรใหม่ ๆ ที่เป็นความร่วมมือกับประชาชนและทุกภาคส่วน ไม่ใช่แค่รัฐบาลอย่างเดียว โดยใช้หลักที่เคยฟันฝ่าอุปสรรคโควิด-19 มาได้ สำหรับนโยบายด้านราคาพลังงาน โครงสร้างที่วางมาดีอยู่แล้ว แต่เผอิญเจอวิกฤต อย่างไรก็ตาม ราคาพลังงานเริ่มอ่อนตัวลง และมีแนวโน้มลดลงจนถึงสิ้นปี ปีหน้าก็จะดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ไม่ก่อภาระเพิ่มเติมให้ทั้งภาคประชาชนและอุตสาหกรรม ส่วนที่ว่ากำลังการผลิตเกิน 60% นั้นไม่ใช่
สำหรับกรณีที่หลายพรรคการเมือง ออกนโยบายโดยเน้นเรื่องตัวเลขนั้น นายสุพัฒนพงษ์ บอกให้รอดูของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่จะมุ่งเป้าสำหรับคนที่จำเป็น ในอดีตไม่เคยมีการช่วยเหลือแต่ละกลุ่มอย่างเป็นระบบ มีแต่เหวี่ยงแหแจกทุกคน แต่ในยามวิกฤติ ยามเดือดร้อน เราใช้เงินเหมาะสม คนล่างสุดรับเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เหมือนเบาะรองรับเมื่อตกตึก ทำให้พออยู่ได้ เป็นโอกาสดำรงชีวิตได้ในระดับหนึ่ง และเติมโอกาสไปเรื่อย ๆ คนที่ระดับสูงกว่านั้นก็เป็นโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ที่ต้องไปช่วยคนตัวเล็กอีกทอดหนึ่ง ส่วนช้อปดีมีคืน ก็เป็นคนมีฐานะที่ไปช่วยกันใช้เงิน ซึ่งการช่วยเหลือแบบนี้ ไม่เคยมีรัฐบาลไหนทำมาก่อน
ข่าวน่าสนใจ:
- นำทีมบ้านใหญ่ “ธรรมเพชร” ลงสมัคร นายก อบจ.พัทลุงอีกสมัย ด้าน “ สาโรจน์” คู่ชิงชัยคนสำคัญจะลงสมัครในวัดสุดท้าย
- ศึกษาธิการระยอง จับมือเทคนิคระยอง และศูนย์การค้าเซ็นทรัลระยอง จัดกิจกรรมโครงการเรียนดี มีความสุขสู่อนาคตที่สดใส
- เปิดศึกชิงนายก อบจ.ปัตตานี อดีต สส.ท้าชน อดีตนายก อบจ.4 สมัยเดือดตั้งแต่วันแรก (มีคลิป)
นายสุพัฒนพงษ์ ยืนยันว่า จะทำโครงการคนละครึ่งต่อ เพราะถือว่าเป็นนโยบายของพรรคและเป็นสิ่งที่ดี ไม่ได้ทำให้เสียวินัยทางการเงินการคลัง แต่จะต่างจากช่วงวิกฤติ จะเน้นผู้ที่ประหยัดค่าใช้จ่าย ผู้ที่ถือแอปพลิเคชันเป๋าตัง รอบหน้าจะเพิ่มเรื่องถุงเงินที่เน้นธุรกิจเอสเอ็มอี คนตัวเล็ก และถุงเงินภายใต้โครงการคนละครึ่ง จากที่มีผู้มีสิทธิ 1 ล้านรายนั้น ต้องการให้มีมากขึ้นถึง 5 ล้านราย
เมื่อถามถึงกระแสของประชาชนบางกลุ่ม ที่ขาดความมั่นใจ มองว่าไม่น่าจะไปรอด เนื่องจากเป็นทีมเดิมที่ทำงานมา 8 ปีแล้วนั้น นายสุพัฒนพงษ์ ย้อนถามกลับว่า รัฐบาลทุกรัฐบาลที่เผชิญวิกฤตช่วงนั้น ๆ มีรัฐบาลไหน เดินข้ามวิกฤตนั้นไปได้หรือเปล่า และให้ลองถามทุกคนดูว่า ขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้นหรือเปล่า
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: