กรุงเทพฯ – เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ยืนยัน บัญชีรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์เปลี่ยนไม่ได้ ยอมรับ ต้องจัดที่พิเศษให้ ‘บ้านใหญ่’ เพราะผลงานดี มีศักยภาพ เป็นที่คาดหวังของประชาชน
วันที่ 24 มีนาคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยถึงการประชุม คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. ที่นายสันติ เป็นประธาน ว่า ขณะนี้การสรรหาผู้สมัคร ทั้งแบบแบ่งเขตทั้ง 400 เขต และแบบบัญชีรายชื่อ 100 คน เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะนําเข้าสู่ที่ประชุมตัวแทนสาขาประจําจังหวัด เพื่อจัดทำไพรมารีโหวต แล้วจะส่งกลับมาที่ คณะกรรมการสรรหา เพื่อตรวจสอบอีกครั้ง ช่วงบ่ายวันที่ 28 มีนาคมนี้ เพื่อตรวจดูว่าใครมีความเห็นอย่างไรในขั้นสุดท้าย
จากนั้น จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อให้ความเห็นชอบว่า จะมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ รวมถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้งหมด ในวันที่ 30 มีนาคม
นายสันติ ยืนยันว่า คนที่พรรคคัดสรร ล้วนเป็นคนที่มีศักยภาพ เป็นทีมที่ช่วยพรรคทำงาน ทุ่มเทให้กับพรรค เพียงแต่ได้ออกสื่อมากหรือน้อยแค่นั้น
ข่าวน่าสนใจ:
สำหรับข้อสังเกตว่าบุคคลที่อยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับต้น ๆ เป็นกลุ่มที่อยู่บ้านใหญ่และเป็นแกนนำพรรค ต้องบอกว่าบ้านใหญ่เหล่านั้นสามารถดูแล ส.ส.ให้เป็นที่ชื่นชอบและเป็นความหวังของประชาชน ได้มายกจังหวัด แสดงว่ามีศักยภาพ ประชาชนให้ความหวังมาก จะให้พรรคทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ได้อย่างไร ฉะนั้น พรรคจึงต้องจัดอะไรให้คนพิเศษในแต่ละจังหวัด เพราะคนเหล่านี้จัดการบ้านของตัวเองอย่างแข็งแรง ทำประโยชน์ พัฒนาพื้นที่ จนคนในจังหวัดนั้น ๆ ชื่นชม จะมาบอกว่าบัญชีอันดับต้น ๆ เป็นของบ้านใหญ่ไม่ได้ ต้องถือว่าจังหวัดนั้นเป็นเอกภาพ อย่าไปดูถูกประชาชนในจังหวัดนั้น เมื่อมาอยู่กับพรรค ก็ต้องรักและให้เกียรติ อีกทั้งต้องดูคนที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ดูแลคนรุ่นใหม่ ดูแลทุกช่วงวัย สตรีและผู้สูงวัย
ส่วนที่ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค แถลงขอสละสิทธิ์ไม่สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรค นายสันติ กล่าวว่า ออกก็ออกไป พรรคไม่ได้เสียหายอะไร ก็เลื่อนกันไปตามนั้น บัญชีรายชื่อทั้ง 100 คน ตอนนี้คงเปลี่ยนไม่ได้แล้ว เพียงแต่หากใครป่วยหรือลาออก ก็เลื่อนขึ้นมาเท่านั้น สำหรับการทำไพรมารีโหวต ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็จะไม่แก้ เพราะยุ่งยากมาก ใครอยากจะออกก็ออก แต่ใครอยากจะเข้าก็เข้าไม่ได้แล้ว เพราะทำไพรมารีโหวตแล้ว เวลาก็กระชั้นมาก
เมื่อถามว่า ศ.ดร.นฤมล ได้มาพูดคุยก่อนหรือไม่ นายสันติ ระบุว่า จะมาปรึกษาทำไม เพราะไม่ได้เป็นอะไรกัน “เขาใหญ่กว่าผมอีก เลขาธิการพรรคคือคนใช้ของคนในพรรคทั้งพรรค ถือเป็นแม่บ้านพรรคที่ต้องคอยดูแล ลูกร้องยังต้องเข้าไปโอ๋เลย” ถามต่อว่า จะเข้าไปโอ๋ ศ.พร.นฤมล หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า “เขาไม่มา ใครจะโอ๋ ทําไมไม่บอกให้เขามาคุยกับผม”
ส่วนในบัญชีรายชื่อ ศ.ดร.นฤมล อยู่ในอันดับที่เท่าไหร่ นายสันติ ตอบว่า ชื่อก็สลับไปสลับมา ท้ายที่สุดก็ลงตัว สําหรับตนเอง อย่าคิดว่าจะอยู่ลำดับใด โดนบังคับต่างหาก จะเห็นได้ว่าตนเองไม่มีเสียงเลย แต่ถ้ามีใครมาสั่งให้สละ ก็พร้อมจะสละ เพราะทำเพื่อพรรค ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง พร้อมยอมรับว่า เมื่อ ศ.ดร.นฤมล แสดงเจตนารมณ์สละสิทธิ์ ก็ไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อแล้ว และว่า “เธอจะออกจากบ้านแล้ว”
เมื่อถามต่อว่า จะไม่รั้งไว้ใช่หรือไม่ นายสันติ ไม่ตอบคำถาม ได้แต่ยิ้มและเดินออกไป
ช่วงเช้าที่ผ่านมา ศ.ดร.นฤมล แถลงข่าวด่วน สละสิทธิ์การลงเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. โดยระบุว่า ต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ทางการเมือง ได้เข้ามาอยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับต้น ๆ บ้าง จึงได้แสดงความจำนงต่อคณะกรรมการสรรหาและผู้บริหารพรรคว่า ขอสละสิทธิ์ พปชร.ต้องผลัดใบ ให้พลังใหม่ได้เข้ามาทำงาน เพื่อให้ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้เติบโตอย่างเข้มแข็งและสวยงาม
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า สาเหตุที่สละสิทธิ์ เป็นเพราะลำดับบัญชีรายชื่อ ตกไปอยู่ลำดับที่ 20 ทำให้ไม่พอใจ ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า ไม่มี แต่การประชุมพรรค เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่มีชื่อของตนเองอยู่ในลำดับตามที่เป็นข่าวและเป็นตามนั้นจริง ๆ แต่เมื่อมองลำดับ 20-30 อันดับแรก ไม่เห็นคนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจ ทุ่มเททำงานให้พรรค จะมีโอกาสเข้ามาทำงาน ถ้าตนเองไม่ถอย ไม่เสียสละ ถ้าคิดว่าเป็นผู้บริหารต้องได้ลำดับต้นคนรุ่นใหม่จะไม่มีทางเข้ามาได้
ทั้งนี้ ตั้งใจมาทำงานการเมือง เพราะปรารถนาที่จะตอบแทนพระคุณแผ่นดินไทย โดยเฉพาะประชาชนที่เสียภาษีส่งตนเองเรียนต่อต่างประเทศ ทำให้เด็กยากจนคนหนึ่งที่ต้นทุนชีวิตต่ำมาก ได้มีโอกาสที่ดีในชีวิตมากมายทุกวันนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: