กรุงเทพฯ – กกต. ระบุ ให้พรรคเพื่อไทย ชี้แจงที่มาของเงินตามนโยบายเติมเงินหมื่นบาท เหตุเข้าข่ายขัดกฎหมายลูก ชี้ ไม่แจ้งเจอปรับ 5 แสนบาท พ่วงวันละหมื่น จนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ ขณะ ‘ศรีสุวรรณ’ ร้องสอบเข้าข่ายสัญญาว่าจะให้หรือไม่
วันที่ 10 เมษายน 2566 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ความเห็น กรณีให้พรรคเพื่อไทย ชี้แจงที่มาของเงินที่จะใช้ในนโยบาย แจกเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัลให้คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป คนละ 10,000 บาท ภายใน 7 วัน ว่า เพราะยังไม่ได้บอกที่มาของเงิน ซึ่งตามเงื่อนไขจะต้องบอก เพื่อเป็นข้อมูลให้ประชาชนตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายประชานิยมแบบใด ซึ่งหากไม่มีข้อมูลรายละเอียด อาจเข้าข่ายขัดกฎหมายลูก ว่าด้วยการเลือกตั้ง (5) แต่ขณะนี้ยังไม่ถือว่ามีความผิดเพราะการไม่แจ้งไม่ถือว่าผิด
ส่วนที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นให้ กกต.ตรวจสอบว่า นโยบายเติมเงินหมื่นบาทเข้าสู่ระบบดิจิล จะเข้าข่ายสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้ และเป็นการหลอกลวงหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ตามข้อห้ามใน มาตรา 73 (1) และ (5) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 หรือไม่นั้น เลขาธิการ กกต. ระบุว่า เป็นสิทธิที่จะดำเนินการได้
เพื่อไทย ยังไม่แจง กกต. ระบุ เจอปรับ 5 แสนพ่วงวันละหมื่น จนกว่าจะดำเนินการ
พ.ต.ต.ณัฐวัฒน์ เสงี่ยมศักดิ์ รองเลขาธิการ กกต. รับผิดชอบงานด้านพรรคการเมือง เปิดเผยว่า กกต.ยังไม่ได้รับแจ้งจากพรรคเพื่อไทย ถึงที่มาของเงินและวงเงินที่ต้องใช้ในนโยบายแจกเงินดิจิทัล คนละ 10,000 บาท ตามที่ กกต.มีหนังสือให้แจ้งกลับมาโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม กกต.ไม่ได้ให้เฉพาะพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่ต้องชี้แจง แต่จะส่งหนังสือแจ้งไปยังทุกพรรคการเมือง ที่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ถ้านโยบายหาเสียงของพรรคเป็นนโยบายที่ต้องใช้จ่ายเงิน ก็ต้องแจ้งรายละเอียดตามเงื่อนไข 3 ข้อที่กฎหมายกำหนดมายัง กกต. หากไม่ดำเนินการ หรือดำเนินการไม่ครบถ้วน จะมีโทษทางอาญา
ตามขั้นตอนแล้ว ถ้าสำนักงาน กกต.มีหนังสือไปแล้วยังไม่แจ้งกลับมา จะเสนอ กกต.ออกคำสั่ง ถ้ายังไม่ดำเนินการอีกจะมีโทษทางอาญา ปรับ 500,000 บาท นับแต่วันที่ กกต.กำหนดให้แจ้ง และปรับอีกวันละ 10,000 บาท จนกว่าจะดำเนินการให้ถูกต้อง ยืนยันว่า กกต.ต้องบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามกรอบ
รองเลขาธิการ กกต. ยังกล่าวถึงกระแสข่าว อาจจะมีการพิจารณายุบพรรคการเมืองหลังการเลือกตั้ง ว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำร้องยุบพรรคใดเสนอ กกต.พิจารณา แต่ถ้ามีการร้องเรียน กกต.ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน หากสอบสวนแล้วเห็นว่าไม่มีมูล จะแจ้งให้ผู้ร้องทราบ แต่ถ้ามีน้ำหนักจะเสนอให้ กกต.พิจารณา ตามขั้นตอน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: