กรุงเทพฯ – นายทหารพระธรรมนูญ นำจ่าสิบโท มือแฮก ‘9Near’ มอบตัวตำรวจ สอท. ยืนยัน ไม่ได้แฮกข้อมูล 55 ล้านคนไทย แต่ซื้อมา 8 ล้านรายการ พร้อมขอโทษคนไทย แต่ตำรวจไม่เชื่อ ค้นห้องพักเจออุปกรณ์เพียบ ชี้ ‘ไม่ใช่สมัครเล่น‘
วันที่ 12 เมษายน 2566 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นายทหารพระธรรมนูญและทนายความ นำตัว จ่าสิบโทเขมรัตน์ บุญช่วย สังกัดกรมขนส่งทหารบก ผู้ต้องหาในคดีแฮกเกอร์ 9Near โพสต์ขายข้อมูลคนไทย 55 ล้านรายชื่อ เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ตามหมายจับ ก่อนสอบปากคำและนำตัวไปค้นที่บ้านพัก
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) แถลงว่า จากการสอบสวนและจะนำตัวจ่าสิบโทเขมรัตน์ ไปค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมที่บ้านพัก ผู้ต้องหายืนยันว่า ข้อมูลที่ได้มาไม่ได้มาจากการแฮกข้อมูล แต่ได้จากการซื้อมาจากเว็บมืดที่ผิดกฎหมาย จำนวน 8 ล้านรายการ ราคา 8 พันบาท เมื่อซื้อมาแล้ว ได้ทดลองดูว่ามีรายชื่อของตนเองอยู่ในข้อมูลดังกล่าวหรือไม่ เมื่อตรวจสอบพบว่ามีจริง จึงนำมา โพสต์ ครั้งแรกไม่ได้รับการตอบสนอง จึงเลือกเอารายชื่อของผู้ที่มีชื่อเสียงมาโพสต์ ทำให้เกิดความสนใจมาก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบเพิ่มเติม และดูว่าหลักฐานที่ยืนยันตรงกับที่เจ้าหน้าที่มีหรือไม่ แต่จากการสอบปากคำ เจ้าต้วบอกว่าแค่อยากลอง โดยซื้อมาจากเว็บไซต์ Breach Forum ซึ่งถูกปิดไปแล้ว ส่วนเรื่อง 55 ล้านรายชื่อนั้นไม่เป็นเรื่องจริง สำหรับภรรยามีหน้าที่ดูแลคนไข้ ไม่ได้มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับระบบหมอพร้อมเลย
ส่วนโทษ เบื้องต้นถือว่าเป็นการทำความผิด ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ สร้างความตื่นตระหนกและความเสียหายต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งนี้ จะต้องดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ต่อไปด้วย
สำหรับภรรยาของ จ่าสิบโทเขมรัตน์ ที่เป็นพยาบาลนั้น พนักงานสอบสวน บช.สอท. จับแยกสอบปากคำคนละห้อง เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและความเชื่อมโยงทั้งหมด ซึ่งถ้าพบว่าภรรยามีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกระทำความผิดด้วย จะต้องถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันกระทำความผิด และทั้งหมดจะต้องไปขึ้นศาลพลเรือน เพราะมีประชาชนเข้าร่วมกระทำความผิด
ค้นบ้าน 9Near พบอุปกรณ์ไอทีเพียบ ตำรวจ ชี้ ไม่ใช่มือสมัครเล่น
พลตำรวจโทวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยผลการเข้าตรวจค้นห้องพักของ จ่าสิบโทเขมรัตน์ บุญช่วย ผู้ต้องหา ว่า พบพยานหลักฐานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์หลายอย่าง ที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ และเชื่อมโยงกับคำให้การของผู้ต้องหา ว่าเป็นคนซื้ออุปกรณ์มา ทั้งฮาร์ดดิสก์ 7-8 ตัว อุปกรณ์รีโมทควบคุมทางไกล โน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ อุปกรณ์สำหรับซ่อมคอมพิวเตอร์ เราเตอร์ พอกเก็ต Wi-Fi 3 ค่ายโทรศัพท์มือถือ
จึงเชื่อว่าจ่าสิบโทเขมรัตน์ เชี่ยวชาญ มีความรู้ ความสามารถ ไม่ใช่มือสมัครเล่นแน่นอน ตำรวจยังมองว่า กลุ่มคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี จะหาช่องทางที่จะแสดงตัวตนและความสามารถของตัวเอง จึงก่อเหตุขึ้น
พลตำรวจโทวรวัฒน์ กล่าวกรณีผู้ต้องหาอ้าง ซื้อข้อมูลจากดาร์กเว็บ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล เนื่องจากเป็นเครือข่ายเว็บไซต์ที่เป็นของต่างประเทศ ราคาที่ว่าซื้อข้อมูลมาในราคาเพียง 8,000 บาท ก็เป็นเพียงคำให้การเบื้องต้นเช่นกัน ตำรวจมีสิทธิ์ที่จะเชื่อหรือไม่ อยู่ที่พยานหลักฐาน
ทั้งนี้ ตามคำให้การของผู้ต้องหายืนยันว่า มี 3 เจตนารมณ์ในการโพสต์ข้อมูลส่วนบุคคล คือ 1.เพื่อต้องการประกาศขาย เนื่องจากต้องการเงิน 2.ต้องการโพสต์ให้คนสนใจ ใช้ข้อมูลของบุคคลมีชื่อเสียงในลักษณะการข่มขู่ และ 3.พอรู้ว่ามีการติดตามจับกุม ก็เบี่ยงเบนประเด็นไปเรื่องการเมือง
ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ยังกล่าวถึงการหลบหนีของผู้ต้องหา ว่า คงคิดว่าตำรวจไม่สามารถจับกุมตัวได้ จึงขับรถหลบหนีตระเวนไปหลายแห่ง เพราะรู้ว่าตำรวจไปซุ่มดูเป้าหมายสำคัญที่เป็นบุคคลใกล้ชิด ก่อนมุ่งไป จ.เชียงราย เพียงคนเดียว โดยไม่ใช้โทรศัพท์มือถือ และทิ้งเครื่องมือสื่อสารทุกอย่าง แต่ทิ้งเบาะแส คือ การแวะไปหาเพื่อนตามสถานที่ต่าง ๆ พร้อมยืนยัน ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองไป
ส่วนภรรยาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ จากการสอบปากคำ ภรรยาทำหน้าที่พยาบาลและดูแลคนไข้ ไม่ได้มีหน้าที่ดูแลระบบ หรือเกี่ยวข้องกับการกระทำในครั้งนี้ เบื้องต้นผู้ต้องหายืนยันว่าทำเพียงคนเดียว และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าไม่มีการเชื่อมโยงไปถึงภรรยา และไม่น่าจะมีบุคคลอื่นหรือผู้บังคับบัญชาเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เพราะตรวจสอบที่พักพบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเอง หากมีคนสั่งการหรือมีหน่วยงานที่ควบคุมดูแล ควรจะมีสถานที่ ที่เป็นความลับเพื่อก่อเหตุ
อย่างไรก็ตาม หลังสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนและทหารพระธรรมนูญ จะนำตัวจ่าสิบโทเขมรัตน์ บุญช่วย ไปฝากขังยังศาลทหารทันที พร้อมคัดค้านการประกันตัว เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี โดยมีระยะเวลาฝากขังผัดแรก ตั้งแต่วันที่ 12-23 เมษายน 2566 รวมระยะเวลา 12 วัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: