กรุงเทพฯ – กรมควบคุมโรค เผย ผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตอีก 2 ราย คาด หลังสงกรานต์จะมีผู้ติดเชื้อโควิด 19 เพิ่ม และอาจมากกว่าช่วงปีใหม่ จากหลายสาเหตุ แนะ หลังกลับจากสงกรานต์ ขอให้สังเกตอาการอย่างน้อย 7 วัน เลี่ยงการสัมผัสอยู่ใกล้ชิดกับผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค สรุปสถานการณ์โรคโควิด 19 ประจำสัปดาห์ที่ 15 พ.ศ.2566 ระหว่างวันที่ 9-15 เมษายน 2566 พบผู้ป่วยรายใหม่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 435 ราย เฉลี่ยวันละ 62 ราย ซึ่งมีแนวโน้มพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 2.5 เท่าของสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนผู้ป่วยปอดอักเสบ 30 ราย และผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 19 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 58 และร้อยละ 36 ตามลำดับ เปรียบเทียบกับสัปดาห์ก่อน
นอกจากนี้ ยังมีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น นานเกินกว่า 3 เดือนแล้ว จึงขอย้ำให้กลุ่มเสี่ยงเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นที่สถานพยาบาลใกล้บ้านโดยเร็ว โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ทั้งนี้ สถานบริการจะปรับการให้บริการรูปแบบวัคซีนโควิดประจำปีตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป
ด้านนายเเพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากรายงานผู้ป่วยโควิดที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลระยะนี้ ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง เนื่องจากได้รับวัคซีนหรือเคยติดเชื้อมาแล้ว ทำให้ยังมีภูมิคุ้มกันป้องกันอาการหนักได้แน่นอน แม้จะไม่ได้ป้องกันติดเชื้อได้ 100%
พร้อมแนะนำว่า หลังสงกรานต์ขอให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตัวเองอย่างน้อย 7 วัน หลีกเลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกับผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หากจำเป็นให้สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อย ๆ เมื่อเริ่มมีอาการป่วย เช่น มีไข้ เจ็บคอ ไอ มีน้ำมูก ให้ตรวจ ATK หากผลเป็นบวกก็ให้ปรึกษาแพทย์รักษาตามสิทธิและตามระดับอาการ ไม่แนะนำให้ตรวจ ATK ขณะที่ยังไม่มีอาการ
ข่าวน่าสนใจ:
- จ.สกลนคร เปิดศูนย์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 (โค้งปิ้งงู)พร้อมให้บริการประชาชน 24 ชม.
- ตรัง ทวีศักดิ์ สงชู ผู้สมัครนายกอบจ.ตรังเบอร์ 3 ชูแผนชุมชนมีชีวิตพร้อมพัฒนาท้องถิ่น
- เพชรบูรณ์-รถเอสยูวีขนต่างด้าวชนแทรกเตอร์เจ็บ 5 คนขับพร้อมชาวต่างด้าวอีก 5 หลบหนี
- จังหวัดนครพนม เปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568
อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาล มียา เวชภัณฑ์ และเตียง เพียงพอในการรองรับผู้ป่วยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร.1422
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: