กรุงเทพฯ – หัวหน้าพรรคก้าวไกล ประกาศชัยชนะเลือกตั้ง พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี และเตรียมตั้งรัฐบาล 6 พรรค เปลี่ยนขั้ว ปิดประตูรัฐบาลเสียงข้างน้อย นำว่าที่ ส.ส.ของพรรค ขึ้นรถแห่ ขอบคุณทุกคะแนนเสียง
วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำขบวนว่าที่ ส.ส.ของพรรคก้าวไกล ขึ้นขบวนรถแห่ เพื่อขอบคุณประชาชน ที่ออกมาลงคะแนนเสียงให้พรรคก้าวไกล จนชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และมีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย
โดยเริ่มต้นขบวนที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งมีประชาชนรอต้อนรับจำนวนมาก ขบวนรถเคลื่อนไปยังจุดหมายที่ลานคนเมือง ตลอดสองข้างทางที่ขบวนรถผ่าน มีประชาชนส่งเสียงตะโกนเชียร์ “นายกฯ พิธา ๆ” ดังกึกก้องอย่างต่อเนื่องตลอดทาง รวมถึงมอบดอกไม้ให้ด้วย หลังจากนี้ จะเดินสายขอบคุณประชาชนในต่างจังหวัดด้วย
ก่อนหน้านี้ นายพิธา ได้แถลงน้อมรับความเห็นที่แตกต่าง พร้อมที่จะเคารพและต่อยอดจากการต่อสู้จากประชาธิปไตย และคืนศรัทธาให้ระบบประชาธิปไตย สร้างความโปร่งใสให้การเมืองไทย จะรีบตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้มีสุญญากาศทางการเมืองและเศรษฐกิจ ขอให้มั่นใจการทำงานของพรรคก้าวไกล ทั้งนี้ ได้โทรศัพท์หา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เพื่อเชิญชวนจัดตั้งรัฐบาลกับก้าวไกล ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย ประชาชาติ ไทยสร้างไทย และเสรีรวมไทย เมื่อรวมกันจะได้ 308 เสียง และกำลังติดต่อพรรคเป็นธรรม ให้ได้ 309 เสียง ถือว่าเพียงพอตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก และปิดประตูการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และคิดว่าคงไม่มีใครฝืนประชามตินี้
ข่าวน่าสนใจ:
แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะต้องมีการเซ็นเอ็มโอยู (บันทึกข้อตกลงความเข้าใจ) เหมือนการเมืองสากล เพื่อให้เห็นความคาดหวังในการทำงาน และมองเห็นว่า ในช่วง 100 วัน 1 ปี จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
พร้อมควบเก้าอี้ รมว.กลาโหม ย้ำ แก้ ม.112
ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นของพรรคไหน นายพิธา ระบุว่า สิ่งสำคัญคือนโยบายปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ตอนนี้พร้อมนั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และถ้าจำเป็นต้องควบในกระทรวงต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ในทางกลับกัน ถ้ามีคนที่มีความเชี่ยวชาญ ในการปฏิรูปกองทัพ เข้าใจว่ากองทัพจิ๋วแต่แจ๋วและพร้อมแก้ปัญหา
สำหรับการแก้ไข มาตรา 112 สามารถทำได้ในสภาฯ และตอนนี้ก้าวไกลก็มีเสียงเกินแล้ว แต่อยากให้มีการพูดคุยแบบคนมีวุฒิภาวะ และมากกว่า คือ ต้องทบทวนผู้ได้รับผลกระทบจากคดีทางการเมืองและนิรโทษกรรม เพราะเป็นห่วงความสัมพันธ์ระหว่างเยาวชนกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เช่น กรณีของน้องหยก หากยังไม่ทบทวน จะกลายเป็นระเบิดเวลาที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น
นายพิธา ยังไม่กังวลเรื่องหุ้นไอทีวี เพราะที่ผ่านมา ได้เตรียมตัวและชี้แจงไปแล้ว ตอนนี้รอคำร้องจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่า ไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้
“พร้อมดูแลประชาชนทุกคน ทั้งที่เห็นด้วย และเห็นต่าง แน่นอน เท่าที่พูดคุยกันตั้งทีมมี 309 เสียงแล้วในการตั้งรัฐบาล รวมทั้งจะเป็นนายกรัฐมตรีที่เข้าใจทุก ๆ คน” นายพิธา กล่าว
ด้านพรรคเพื่อไทย พร้อมจับมือตั้งรัฐบาลก้าวไกล ย้ำ ไม่ยกเลิก ม.112 ‘ทักษิณ’ ยังไม่เลื่อนกลับบ้าน
พรรคเพื่อไทย ตอบรับคำเชิญร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล โดยระบุว่า ได้มีการประสานงานกัน แต่รายละเอียดเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคที่ต้องพูดคุยกัน ส่วนเงื่อนไขของเพื่อไทยนั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ต้องดูรายละเอียดที่พรรคก้าวไกลกำหนดประเด็นหารือ สำหรับ 309 เสียง จะโหวตนายกฯ ได้หรือไม่ เป็นไปตามข้อกฎหมาย ว่าต้องได้เสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภา หรือ 376 เสียง
สำหรับเรื่องมาตรา 112 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ย้ำว่า จุดยืนของเพื่อไทยชัดเจน ไม่สนับสนุนยกเลิก มาตรา 112 ส่วนเรื่องกฎหมายที่มีน้อง ๆ ติดคุก พร้อมที่จะพูดคุยและรับฟัง พร้อมยืนยันการกลับมาของนายทักษิณ ชินวัตร ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย และเบื้องต้น ยังเป็นไปตามช่วงเวลาเดิมที่เคยบอกไว้ ยังไม่ประกาศเลื่อน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: