กรุงเทพฯ – นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นำทีมเศรษฐกิจ หารือ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมรับเสนอแนะ เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ยืนยัน ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาทแน่นอน
วันที่ 23 พฤษภาคม 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ทีมเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกล และนายสุพันธุ์ มงคลสุธี จากพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งเป็นอดีตประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เข้าพบผู้บริหาร ส.อ.ท. นำโดย นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ส.อ.ท. เพื่อรับฟังปัญหา อุปสรรค ข้อกังวล และข้อเสนอ จากภาคอุตสาหกรรม
ซึ่งข้อเสนอแนะส่วนใหญ่ตรงกับนโยบายของพรรคก้าวไกล ที่จะนำไปบรรจุในนโยบายรัฐบาล เช่น เรื่องราคาพลังงาน การเพิ่มผลิตภาพแรงงาน ภาคเอกชนเชื่อมั่นว่า ภายใต้การทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยยึดประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นที่ตั้ง ดำเนินการด้วยความโปร่งใส รอบคอบ จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและนำพาเศรษฐกิจประเทศไปสู่อนาคตได้
นายพิธา ระบุว่า พรรคก้าวไกลต้องการเข้ามาผลักดันอุตสาหกรรมให้ตอบโจทย์ใหม่ ๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น blockchain มาใช้ การสร้างยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมใหม่ โดยเฉพาะการเปลี่ยนจาก Made in Thailand เป็น Made with Thailand ประเทศไทยไม่ใช่แค่รับจ้างผลิต แต่ต้องทำให้อุตสาหกรรมไทยเข้าไปอยู่ใน Value Chain ของอุตสาหกรรมโลก
อุตสาหกรรมไทยในอนาคตจำเป็นต้องมี 3F คือ
♦ Firm Foundation หรือพื้นฐานที่แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็น แรงงานที่มีทักษะสูง เทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐานที่ดี
♦ Fair หรือความเป็นธรรม เพราะ 40 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมไทยเติบโตจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ สิ่งที่ตามมาคือความเหลื่อมล้ำ ในการพาประเทศไทยไปสู่ประเทศรายได้สูงจำเป็นที่จะต้องคิดเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำด้วย
♦ Fast Growing Industry ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการผลักดันการวิจัยและพัฒนา (R&D) และส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ ๆ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า (EV)
นายพิธา กล่าวอีกว่า ส่วนหนึ่งที่จะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันได้ คือ การเร่งเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป ให้สำเร็จโดยเร็ว และใช้ประโยชน์จาก FTA นี้ เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในการทำงานต่อไป
ส.อ.ท.เสนอกรอบ 5 ด้าน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ส.อ.ท. จัดทำกรอบข้อเสนอเร่งด่วนในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม 5 ด้าน ประกอบด้วย
1.การแก้ไขปัญหาต้นทุนพลังงาน
2.การแก้ไขปัญหาแรงงาน
3.การส่งเสริมและช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
4.การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
5.การปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบ เพื่อส่งเสริม Ease of Doing Business
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า มีสัญญาณที่ดีจาก คณะกรรมการกำกับดูแลพลังงาน ที่พร้อมเปลี่ยนสูตรการจัดสรรก๊าซธรรมชาติ สามารถทำได้ทันทีที่มีรัฐบาลใหม่ โดยจะเห็นผลในบิลค่าไฟที่ลดลง ภายในเดือนมกราคม 2567
ยืนยัน ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท ตามนโยบายที่หาเสียงไว้
นายพิธา ยืนยันว่า พรรคก้าวไกลเห็นความจำเป็นในการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และรัฐบาลใหม่จะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามที่หาเสียงไว้อย่างแน่นอน โดยจะนำค่าครองชีพ อัตราเงินเฟ้อ และการเติบโตทางเศรษฐกิจ มาพิจารณา พร้อมกันนี้ต้องมีแพ็กเกจบรรเทาผลกระทบต่อธุรกิจ SMEs โดยะยะยาวจะปรับระบบค่าแรงขั้นต่ำขึ้นทุกปีโดยอัตโนมัติ ตามร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน ที่จะนำเสนอโดยพรรคก้าวไกล เชื่อมั่นว่าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอย่างเป็นระบบ จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งคนทำงานที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และฝั่งผู้ประกอบการจะสามารถควบคุมต้นทุนของตัวเองได้
และเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลอื่นที่มีนโยบายค่าแรงจะเห็นด้วย โดยพรรคก้าวไกลเคยเสนอว่า ค่าแรงขั้นต่ำที่เป็นธรรม สอดคล้องกับผลิตภาพแรงงานที่เพิ่มขึ้น และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 450 บาทต่อวัน หลังจากนี้ จะเดินหน้ารับฟังความเห็นจากคนทุกกลุ่มอย่างรอบคอบ เพื่อหาข้อสรุปและนโยบายสนับสนุนการปรับตัวที่เหมาะสมต่อไป
