พิจิตร – นายกรัฐมนตรี กำชับทุกภาคส่วนเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของชาวพิจิตรด่วน พร้อมให้กำลังใจครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ย้ำ ถอดบทเรียนเตรียมรับมือภัยพิบัติทุกประเภท
วันที่ 24 พฤษภาคม 2566 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางตรวจติดตามสถานการณ์สาธารณภัย (วาตภัย) ณ โรงเรียนวัดเนินปอ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร พร้อมตรวจเยี่ยมบริเวณโดมของโรงเรียนที่ได้รับความเสียหาย พบปะให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และความเดือดร้อนจากสถานการณ์วาตภัย โดยขอให้ประชาชนดูแลรักษาจิตใจให้สงบ ปรึกษาเจ้าหน้าที่ ดูแลซึ่งกันและกัน ขอให้ดำรงชีวิตอยู่ให้ได้และมีกำลังใจที่ดี
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีสอบถามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความห่วงใย และกล่าวในนามของรัฐบาล แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัว ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องนำมาทบทวนว่า จะดำเนินการอย่างไรให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ด้วยความเร็วลม 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมงของพายุ จึงมีผลต่อโครงสร้างของอาคาร สิ่งเหล่านี้ต้องเป็นบทเรียนให้กับทุกหน่วยงาน ทุกพื้นที่สำรวจความเข้มแข็งของสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ให้ครบถ้วน กำหนดพื้นที่ความเสี่ยงที่อาจจะมีปัญหาในอนาคต รวมทั้งวิธีการจัดการกับเหตุการณ์รูปแบบเดียวกันนี้ในอนาคต คาดหวังเห็นการอำนวยการ การเตรียมพร้อมของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เมื่อได้รับการแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา หรือหน่วยงานต่าง ๆ ต้องเตรียมพร้อม มีคณะทำงานรับมือก่อนเกิดเหตุ ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องทันทีผ่านช่องทางการสื่อสารที่สามารถทำได้ เช่น หอกระจายข่าวชุมชน ช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ แนะนำแนวทางการปฎิบัติตัวและการรับมือ
ข่าวน่าสนใจ:
สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความพร้อมของศูนย์ฯ ต้องมีแผนเผชิญเหตุ มีขั้นตอนในการรับมือสาธารณภัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น น้ำท่วม ฝนแล้ง วาตภัยเป็นต้น ต้องมีแผนรองรับไว้ทั้งหมด แบ่งเป็นระดับการบริหารจัดการ ผู้รับผิดชอบและแนวทางการรับมือ การติดต่อสื่อสารและการกระจายข่าวสารสู่ประชาชน
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด คือ การซ่อมแซมอาคาร บ้านเรือน ระดมสรรพกำลังพลเรือน ตำรวจ ทหาร ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันซ่อมแซมฟื้นฟูเพื่อให้อยู่อาศัยได้ รวมทั้งการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือฯ ต้องดำเนินการต่อเนื่อง จนกว่าเหตุการณ์จะกลับสู่สภาพปกติ ต้องติดตามขั้นตอนการช่วยเหลือจนกว่าสถานการณ์จะเรียบร้อย
นายกรัฐมนตรี ยังเน้นย้ำให้ทุกคนไม่ประมาท เตรียมพร้อมรับมือ มีคณะทำงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สิ่งสำคัญที่สุดหลังจากนี้ คือ after action review การถอดบทเรียน ทบทวน ตั้งสมมุติฐานภัยพิบัติทุกประเภท มีแนวทางการปฏิบัติทุกระดับ ตั้งแต่ระดับ 1-2-3 การรับมือ การให้ความช่วยเหลือ มีการซักซ้อมเตรียมรับเหตุการณ์เพื่อบรรเทาสาธารณภัยในทุก ๆ เรื่องครอบคลุมทุกมิติ ในส่วนของการดำเนินการด้านงบประมาณ และการให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ หากได้รับแล้วต้องรีบดำเนินการโดยทันทีตามระเบียบของทางราชการอย่างถูกต้องและเหมาะสม รวมทั้งการดูแลด้านสุขภาพจิต ติดตามประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ประสบเหตุและครอบครัว ดูแลเยียวยาด้านจิตใจ
นายกรัฐมนตรีและคณะ ยังเดินทางไปเยี่ยมบ้านครอบครัวของผู้เสียขีวิต ณ บ้านเลขที่ 5 และบ้านเลขที่ 116/5 หมู่ที่ 18 ตําบลเนินปอ อําเภอสามง่าม โดยได้เข้าเคารพศพผู้เสียชีวิต ก่อนเยี่ยมบ้านเรือนและทักทายประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์วาตภัยในบริเวณใกล้เคียง
เยี่ยมผู้ป่วยที่ยังพักรักษาตัวอยู่ ณ หอผู้ป่วยศัลยกรรมหญิง ชั้น 3 รพ.พิจิตร 2 คน และหอผู้ป่วยศัลยกรรมกระดูก ชั้น 2 อีก 2 คน โดยให้กำลังใจแก่ครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมขอให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นและหายป่วยในเร็ววัน ขอให้ญาติและครอบครัวมีกำลังใจที่ดี ในส่วนของการดูแลช่วยเหลือเยียวยาขอให้หน่วยงานประสานดูแลให้ครบถ้วนและดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบต่อไป หลังจากน้้น นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
เหตุการณ์วาตภัยที่เกิดขึ้น ส่งผลให้อาคารโดม โรงเรียนวัดเนินปอถล่ม มีผู้เสียชีวิต 7 คน บาดเจ็บรวม 18 คน แบ่งเป็นผู้บาดเจ็บสาหัส 6 คน กลับบ้านได้แล้ว 12 คน โดยมีพื้นที่ประสบภัย 3 ตำบล 16 หมู่บ้าน บ้านพักอาศัยได้รับความเสียหาย 408 หลัง โรงเรียน 2 แห่ง วัด 1 แห่ง ซึ่งจังหวัดพิจิตรได้ประกาศเขตพื้นที่ให้ความช่วยเหลือแล้ว ประกอบด้วย ตำบลเนินปอ 7 หมู่บ้าน ตำบลรังนก 6 หมู่บ้าน และตำบลสามง่าม 3 หมู่บ้าน โดยมีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์และให้ความช่วยเหลือสาธารณภัย วาตภัย ช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้ประสบภัย การซ่อมแซมฟื้นฟูสถานที่เกิดเหตุ และเป็นศูนย์กลางการรับบริจาคปัจจัย สิ่งของช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัยจากหน่วยงานต่าง ๆ ทุกภาคส่วน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: