กรุงเทพฯ – รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ขึ้นอยู่กับผลลงคะแนนของที่ประชุมสภาฯ ไม่มีกฎเกณฑ์ว่าต้องเป็นพรรคการเมืองใด
วันที่ 29 พฤษภาคม 2566 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเหนประเด็นการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า ขึ้นอยู่ที่การลงคะแนนในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่าจะเลือกบุคคลใดเป็นประธานสภาฯ โดยไม่มีกฎเกณฑ์ใดที่จะแน่นอน ว่าต้องเป็นของพรรคการเมืองใดอย่างไร อยู่ที่เมื่อถึงเวลา จะมีผู้เสนอชื่อให้เข้ารับเลือกจากที่ประชุมกี่คน และที่ประชุมสภาลงคะแนน เป็นข้อเท็จจริงที่เป็นเช่นนั้นมา
ส่วนที่เป็นห่วงว่า ประธานสภาฯ จะมีผลต่อการเลือกคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายจุรินทร์ มองว่า รัฐธรรมนูญและกฎเกณฑ์กติกาเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ในอดีตเวลาจะมีการนำชื่อนายกรัฐมนตรี ขึ้นทูลเกล้าฯ อยู่ที่พรรคการเมืองใดจะรวมเสียง ส.ส.ได้มากเพียงใด และเรียนให้ประธานรัฐสภารับทราบ ประธานตรวจสอบและนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ แต่ปัจจุบัน รัฐธรรมนูญเปลี่ยนไป เพราะนายกรัฐมนตรีจะต้องเลือกจากการลงคะแนนในที่ประชุมรัฐสภา คือ ที่ประชุมร่วม ส.ส. และ ส.ว. จึงขึ้นอยู่กับผลกันการลงคะแนน เพราะฉะนั้นบทบาทของประธานสภาฯ ในการนำชื่อนายกรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ จึงน้อยลง เพราะขึ้นอยู่กับผลการลงคะแนนในที่ประชุมรัฐสภา
เมื่อถามว่า จำเป็นหรือไม่ ที่ประธานสภาฯ จะต้องมาจากพรรคการเมืองที่ได้คะแนนมากที่สุด นายจุรินทร์ ย้ำว่า อยู่ที่ผลการลงคะแนนในที่ประชุมสภาฯ ที่ผ่านมา มีทั้งกรณีพรรคที่ได้คะแนนมาอันดับหนึ่ง และไม่ได้คะแนนมาอันดับหนึ่ง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในแต่ละยุคสมัย กับผลการลงคะแนน
สำหรับคุณสมบัติของประธานรัฐสภา มีเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ว่าจะต้องเป็น ส.ส. เพราะหากไม่ไดิเป็น ก็เป็นประธานรัฐสภาไม่ได้อยู่แล้ว และคุณสมบัติ ส.ส.เป็นอย่างไรบ้างก็มีระบุไว้ชัดเจน และต้องประกอบกับที่ประชุมเลือกมาเป็นลำดับหนึ่ง จะเป็นบุคบุคคลรุ่นไหนก็ได้ แต่ต้องเป็นบุคคลที่มีศักยภาพและสภาฯ เลือกมา แต่ไม่สามารถตอบได้ว่า การเลือกประธานสภาฯ จะเป็นช่วงไหน ต้องนับหนึ่งที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง รับรอง ส.ส.ก่อน จึงจะเรียกประชุมรัฐสภาได้
ข่าวน่าสนใจ:
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
- "กรุงเทพฯ ดีต่อใจ" ชวน ฮีลกาย..ฮีลใจ รับปีใหม่ 3-5 ม.ค.68
- หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1”
- มทบ.32 เสริมกำลังเตรียมป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: