กรุงเทพฯ – พรรคก้าวไกล-สหพันธ์การขนส่งทางบกฯ เตรียมส่งหลักฐานส่วยทางหลวง ถึงมือจเรตำรวจและรักษาการผู้การทางหลวง หวังปราบปรามให้สิ้นซาก
วันที่ 1 มิถุนายน 2566 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงค์วุฒิ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พบกับ ตัวแทนสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของผู้ประกอบการและสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง 10 สมาคมทั่วประเทศ เพื่อยื่นหนังสือและหารือประเด็นส่วยทางหลวง
นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ระบุว่า ปัญหาส่วยมีมานานและความรุนแรงของปัญหาเพิ่มขึ้น ในอดีต ใช้วิธีให้ตำรวจรับเงินริมถนน ต่อมา เมื่อมีสื่อนำเสนอข่าว วิธีนี้จึงหมดไป เปลี่ยนเป็นแผ่นสติ๊กเกอร์เพื่อแสดงสัญลักษณ์ของแต่ละองค์กร เป็นการเคลียร์ทางในการทำผิดกฎหมาย ที่ผ่านมา สหพันธ์ฯ ได้ร้องเรียนหลายช่องทาง ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตำรวจทางหลวง แต่ต้องเจอปัญหา โดยเฉพาะการถูกข่มขู่
ปัจจุบัน มีแผ่นสติ๊กเกอร์ถึง 40-50 รูปแบบ รถบรรทุกทั้งหมดที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก มี 1.5 ล้านคัน ส่วนรถบรรทุกที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์ฯ มีกว่า 4 แสนคัน ได้ตกลงร่วมกันว่าจะปฏิบัติตามกฎหมาย พยายามชักจูงผู้ประกอบการรายอื่นให้เข้ามาร่วม แต่ไม่สามารถสู้กับการกดดันจากฝั่งรัฐได้ มักมีเจ้าหน้าที่ระดับล่างขอให้ไปเคลียร์กับ ‘เจ้านาย’ ของเขา
ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบก กล่าวอีกว่า การขนส่งถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ ถ้าไม่ราบรื่น สินค้าอุปโภคบริโภคที่ต้องขนถ่ายไปตามภูมิภาคต่าง ๆ จะติดขัด ดังนั้น ถ้ายังมีระบบส่วย จะทำให้ต้นทุนค่าขนส่งสูงขึ้น กระทบประชาชน ถนนหนทางที่ก่อสร้างจากเงินหลายแสนล้านถูกทำลายข้าราชการที่รับอามิสสินจ้าง ควรรู้ตัวว่าสิ่งที่ทำมา ต้องหยุดได้แล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
“ผมไม่เคยติดต่อคุณวิโรจน์ แต่ตรงกันข้าม คุณวิโรจน์หยิบปัญหานี้มาพูดในสังคม แม้ขณะนี้พรรคก้าวไกลอยู่ระหว่างจัดตั้งรัฐบาล แต่ก็สามารถนำปัญหาของประชาชนนำมาสู่การตรวจสอบ ที่ผ่านมา เราพยายามร้องเรียนทุก กรม กอง แต่ไม่ได้รับการแก้ไข แต่วันนี้พิสูจน์แล้วว่าใช้เวลาเพียง 3-4 วัน สามารถย้ายผู้การทางหลวงได้ การแก้ไขปัญหาทั้งระบบต้องใช้เวลา วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นแล้ว” นายอภิชาติกล่าว
ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร กล่าวว่า เป็นเกียรติที่จะได้ทำงานร่วมกับ สหพันธ์การขนส่งทางบกฯ เพื่อขจัดปัญหาคอร์รัปชันให้หมดไปจากแวดวงธุรกิจขนส่ง ซึ่งเป็นปัญหาที่รุนแรงและกระทบประชาชนทุกคน ทั้งด้านราคาสินค้าและความปลอดภัยทางถนน วันนี้ สังคมอาจพุ่งเป้าไปที่ตำรวจทางหลวง แต่ความจริงแล้วเกี่ยวข้องกับตำรวจภูธร โดยเฉพาะที่ดูแลจราจร ซึ่งต้องย้ำว่าเป็นเพียงตำรวจบางคนเท่านั้น ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องขออย่าหมดกำลังใจ
การหารือ วันนี้ วาระสำคัญ คือ จะมาสืบหาว่าเกี่ยวพันกับข้าราชการคนไหนบ้าง พร้อมกำหนดท่าทีที่จะให้ข้อมูลกับจเรตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง หลังจากนี้ จะได้รวบรวมหลักฐาน ด้วยความหวังว่าจะเข้ามาปราบปรามเรื่องนี้ให้สิ้นซาก อย่างไรก็ตาม การปราบปรามวงจรการส่งส่วยอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องทบทวนกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ไม่สอดคล้องในการปฏิบัติงานจริง เปิดช่องว่างให้ข้าราชการบางคน ใช้เป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้ง รังควาน รีดไถหรือเรียกรับผลประโยชน์จากประชาชน
รวมถึงต้องนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างจริงจัง เช่น Weight in Motion หรือการชั่งน้ำหนักขณะรถวิ่ง เชื่อว่าถ้าตัดตัวกลาง ตัดดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ การคอร์รัปชันจะลดลงและหมดไป และสำหรับตำรวจ ต้องยกเลิกการซื้อขายตำแหน่ง ยกระเลิกระบบตั๋ว ถ้าทำทั้งหมดนี้ ปัญหาคอร์รัปชันจะหมดไปอย่างยั่งยืน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: