กรุงเทพฯ – กฟผ. ชวนคนไทยร่วมปรับวิธีคิด ปรับพฤติกรรม ผนึกกำลังอนุรักษ์พลังงาน ดูแลสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยคาร์บอนโดยเริ่มจากตัวเอง ขับเคลื่อนประเทศมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ในวันสิ่งแวดล้อมโลก
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดงานวันสิ่งแวดล้อม กฟผ. ประจำปี 2566 เนื่องในโอกาสวันสิ่งแวดล้อมโลก วันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม-2 มิถุนายน 2566 ภายใต้แนวคิด ‘ชีวิตติด Neutral’ สร้างความรู้ความเข้าใจ และการตระหนักรู้ ให้แก่คนไทยในการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ร่วมขับเคลื่อนให้ประเทศบรรลุเป้าหมาย “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” หรือ Carbon Neutrality ในปี 2050 โดยมีนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการศึกษา นักเรียน นักศึกษา พนักงาน กฟผ. ตลอดจนประชาชนผู้สนใจ เข้าร่วมงาน ณ กฟผ. สำนักงานกลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระบุว่า กฟผ. ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการรักษาความมั่นคงทางพลังงานมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการผลิตไฟฟ้า การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้ดีกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด รวมถึงการส่งเสริมให้คนไทยตระหนักถึงปัญหาโลกรวน เพื่อปรับวิธีคิด และพฤติกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี
กฟผ. ตั้งเป้าหมายนำพาองค์กรและประเทศบรรลุ ‘ความเป็นกลางทางคาร์บอน’ โดยขับเคลื่อนองค์กรผ่านกลยุทธ์ ‘Triple S’ คือ
Sources Transformation การเพิ่มสัดส่วนการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน การปรับระบบโครงข่ายไฟฟ้าให้ยืดหยุ่นและทันสมัยรองรับพลังงานหมุนเวียน ศึกษาเชื้อเพลิงและเทคโนโลยีที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อนำมาใช้ในอนาคต
Sink Co-Creation เพิ่มแหล่งดูดซับคาร์บอน ผ่านโครงการปลูกป่าล้านไร่ ในเวลา 10 ปี โดยร่วมมือกับภาครัฐและองค์กรต่าง ๆ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีกักเก็บคาร์บอน
Support Measures Mechanism ดำเนินโครงการสนับสนุน ให้สังคมมีส่วนร่วมลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เช่น โครงการฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 การสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนไทย
สร้างต้นแบบหอฟอกอากาศสำหรับชุมชนด้วยเทคนิคพลาสมาเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่น PM2.5 พร้อมพัฒนาแอปพลิเคชัน Sensor for All ซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลจากเซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศและปริมาณฝุ่นละอองที่ติดตั้งบริเวณโรงไฟฟ้า โรงงานขนาดใหญ่ สี่แยกไฟแดงที่มีการจราจรหนาแน่น สถานที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัดกว่า 1,200 จุด ทั่วประเทศ เพื่อเฝ้าระวังให้ประชาชนสามารถวางแผนการใช้ชีวิตประจำวันให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ ในช่วงที่ต้องเผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศได้
ไฮไลต์ของงานวันสิ่งแวดล้อม กฟผ. ในปีนี้ คือ การจัดเสวนาในหัวข้อ ‘ปรับชีวิต พิชิตความเป็นกลางทางคาร์บอน’ ซึ่งได้รับเกียรติจากกูรูด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศ มาร่วมแชร์ประสบการณ์ อาทิ
นายจิรวัฒน์ ระติสุนทร รองเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ที่ระบุว่า ประเทศไทยมีเป้าหมายบรรลุ Nationally Determined Contributions (NDC) ในปี 2030 เป้าหมาย Carbon Neutrality ในปี 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี 2065 โดยขับเคลื่อนผ่านแนวทาง 4 ด้าน คือ ด้านนโยบายและกฎหมาย ด้านการเงินและการลงทุน ด้านการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม และด้านการมีส่วนร่วม โดยพัฒนากลไกลตลาดคาร์บอนเครดิตเพื่อเป็นตัวเร่งในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายได้รวดเร็วขึ้น
ด้านนายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) กล่าวถึงแนวคิดพื้นฐานในการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกสู่บรรลุเป้าหมาย คือ 1.ตรวจวัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2.ลดการปล่อยและผลิตคาร์บอนเครดิต โดยพัฒนาเป็นโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: T-VER) ซึ่งจะได้ผลผลิตออกมาเป็นคาร์บอนเครดิต และ 3.นำคาร์บอนเครดิตไปขายในตลาดคาร์บอน พร้อมเป็นหน่วยงานที่สนับสนุนภาคส่วนต่างๆ ให้บรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality
ส่วนนายธวัชชัย สำราญวานิช ผู้ช่วยผู้ว่าการแผนงานโรงไฟฟ้า กฟผ. ระบุว่า ทุกคนสามารถมีส่วนช่วยในการบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality ได้ โดยการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันง่าย ๆ ผ่าน กลยุทธ์ 4 ป. คือ ปิดไฟ, ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 26 องศา, ปลดปลั๊กไฟฟ้าเมื่อเลิกใช้งาน และเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
ภายในงาน ยังมีกิจกรรมรับมอบเครื่องหมาย Carbon Neutral Event จากนายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผอ.องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เพื่อรับรองการจัดงานสิ่งแวดล้อม กฟผ. ว่ามีการชดเชยปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดจนเป็นศูนย์ และเปิดตลาด ‘Living Neutral Fair’ จำหน่ายสินค้าและอาหารรักษ์โลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กว่า 30 ร้านค้า พร้อมกิจกรรม Workshop ประดิษฐ์สิ่งของจากวัสดุรีไซเคิล และนิทรรศการให้ความรู้เพื่อพิชิตความเป็นกลางทางคาร์บอน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: