ตรัง – ตำรวจกองปราบ ตามจับหญิงวัย 35 ปี เปิดบัญชีม้า ให้แก๊งค์มิจฉาชีพหลอกขายรถจักรยานยนต์ผ่านเฟซบุ๊ก มีผู้เสียหายทั่วประเทศ มูลค่ากว่าแสนบาท เตือน รับจ้างเปิดบัญชี ระวังจะถูกดำเนินคดี
วันที่ 10 มิถุนายน 2566 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สั่งการให้กองบังคับการปราบปราม ออกติดตามจับกุม น.ส.วราภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 5 หมายจับ ส่วนใหญ่เป็นการฉ้อโกง หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอม ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน เหตุเกิดระหว่างปี 2565-2566 ประกอบด้วย หมายจับของศาลจังหวัดนครราชสีมา (สภ.เมืองนครราชสีมา), หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ (สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์), หมายจับศาลจังหวัดพัทยา (สภ.แหลมฉบัง), หมายจับศาลจังหวัดระยอง (สภ.เพ) และหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น (สภ.บ้านแฮด) สามารถจับกุมได้ที่ ต.บางเป้า อ.กันตัง จ.ตรัง
โดยมีพฤติการณ์ เมื่อประมาณต้นปีถึงกลางปี 2565 มีมิจฉาชีพหลอกขายรถจักรยานยนต์ผ่านกลุ่มเฟซบุ๊ก มีผู้เสียหายหลงเชื่อ ตกลงซื้อรถจักรยานยนต์ และโอนเงินไปยังบัญชีที่มิจฉาชีพเเจ้งไว้ แต่ไม่ได้รับรถจักรยานยนต์ จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน พบมีผู้เสียหายทั่วประเทศ มูลค่าความเสียหายรวมกว่าแสนบาท
จากการสืบสวนพบว่า บัญชีที่ผู้เสียหายได้โอนเงินไปนั้น เป็นบัญชีของ น.ส.วราภรณ์ (ผู้ต้องหา) พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติออกหมายจับ รวม 5 หมาย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหา กระทั่งทราบว่า หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ละแวก ต.บางเป้า อ.กันตัง จ.ตรัง จึงเข้าติดตามจับกุม และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาให้การฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และให้การว่า ตนเองเป็นเพียงผู้รับจ้างเปิดบัญชีให้เพื่อนที่รู้จักเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการหลอกลวง
ตำรวจสอบสวนกลาง ยังประชาสัมพันธ์เตือนภัยประชาชน สำหรับการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร หรือยินยอมเปิดบัญชีธนาคารในชื่อของตน ให้ผู้อื่นใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน อาจถูกนำบัญชีไปใช้ในทางทุจริต เช่น รับโอนเงินจากการหลอกลวงฉ้อโกงผู้อื่นทุกประเภท หรือ นำไปใช้รับโอนเงินการพนันออนไลน์ ยาเสพติด ซึ่งเจ้าของบัญชีธนาคารอาจถูกดำเนินคดีอาญาได้
