กรุงเทพฯ – คณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศรับรอง ส.ส.ครบทั้ง 500 คนแล้ว รับหนังสือรับรองได้ตั้งแต่ 20-24 มิ.ย. ชี้ รับรองก่อน แต่ยังตรวจสอบทุจริตเลือกตั้งต่อ ส่วนคุณสมบัติ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังรวบรวมข้อเท็จจริงไม่แล้วเสร็จ
วันที่ 19 มิถุนายน 2566 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และนายกิตติพงษ์ บริบูรณ์รองเลขาธิการ กกต. แถลงว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กกต.มีมติให้ประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งทั้ง 400 เขต และแบบบัญชีรายชื่อครบทั้ง 100 คน รวม 500 คน
ตามที่สำนักงาน กกต. เสนอผลการนับคะแนนเลือกตั้ง แบบ ส.ส.เขต 400 เขต และแบบบัญชีรายชื่อพรรคการเมืองจำนวน 67 พรรคการเมือง พร้อมทั้งผลการตรวจสอบเบื้องต้น จากรายงานการเลือกตั้งประจำจังหวัด ทั้ง 77 จังหวัดและรายงานตรวจสอบสิทธิสมัครเลือกตั้ง ของผู้ได้รับการเลือกตั้ง รวมถึงเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม กกต.ยังมีอำนาจสืบสวนและไต่สวน ตามมาตรา 138 พระราชบัญญัติประกอยรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 ดังนั้น หากประกาศผลดารเลือกตั้งแล้ว แต่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ผู้สมัครหรือผู้ใดทุจริตการเลือกตั้ง หรือรู้เห็นกับการกระทำของคนอื่น ให้กกต.ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับการประกาศรับรอง ให้มารับหนังสือรับรองการเป็น ส.ส. ทั้งแบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขต ได้ตั้งแต่วันที่ 20-24 มิถุนายน 2566 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ
สำหรับข้อร้องเรียนการทุจริตการเลือกตั้งในหลายเขตนั้น เลขาธิการ กกต.ระบุว่า ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างที่ สำนักงานกกต.กำลังพิจารณา ซึ่งมีกรอบระยะเวลาให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี แต่ที่ต้องประกาศ 400 เขตไปก่อน เพราะมองว่ากระบวนการพิจารณาสืบสวน ไม่สามารถทำให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 60 วัน ตามที่กฎหมายกำหนดได้ เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ที่จะต้องมีโอกาสแก้ต่างให้ตัวเอง จึงประกาศผลไปก่อนโดยไม่ตัดอำนาจการตรวจสอบของ กกต.
ส่วนภายหลังการรับรองสมาชิกภาพ ส.ส. จะมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยคุณสมบัติของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล กรณีการถือหุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เลยหรือไม่ เลขาธิการ กกต.ชี้แจงว่า เรื่องนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของ คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ของสำนักงานกกต. จึงยังไม่เห็นข้อเท็จจริงทั้งหมด ต้องดูว่าข้อกฎหมายจะเปิดช่องให้ดำเนินการได้แค่ไหน อย่างไร ซึ่งตอนนี้การพิจารณาสำนวนยังไม่แล้วเสร็จ โดยไม่สนใจเรื่องการเมืองว่า จะต้องเร่งให้แล้วเสร็จก่อนโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่
