กรุงเทพฯ – คณะกรรมการเปลี่ยนผ่านฯ ติดตามความคืบหน้าการทำงานของ 14 คณะทำงานย่อย พร้อมหารือการเมือง หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง รับรอง ส.ส.ครบ 500 คน เพื่อประเมินกรอบการทำงาน แต่ยังไม่คุยจัดสรรคณะรัฐมนตรี เผย ได้เสียง ส.ว.ใกล้ถึงเป้า แต่ยังไม่วางใจ
วันที่ 20 มิถุนายน 2566 ที่พรรคไทยสร้างไทย นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล นำคณะกรรมการประสานงานช่วงเปลี่ยนผ่าน 8 พรรคการเมือง แถลงภายหลังการประชุม ว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งที่ 2 เพื่อติดตามและรับทราบความคืบหน้า การทำงานของคณะทำงานย่อยทั้ง 14 คณะ ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมหัวหน้าพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ในวันที่ 22 มิถุนายนนี้
ซึ่งวันนี้ มีการหารือ 10 เรื่อง เช่น ภัยแล้ง เอลนีโญ หาทางออกการบริหารจัดการน้ำ อ่างเก็บน้ำ
– คณะเอสเอ็มอีพูดคุยเรื่องการส่งออกที่ชะลอตัว หนี้ครัวเรือน และการส่งเสริมเอสเอ็มอี
– คณะแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 หารือเรื่องการส่งเสริมการออกพระราชบัญญัติอากาศสะอาด จัดทำแผนที่ความเสี่ยงไฟป่า
– คณะดิจิทัลฯ หารือการส่งเสริมใช้ดิจิทัลในรัฐบาล
– คณะค่าไฟน้ำมัน พลังงาน เสนอปรับลดค่าไฟ และการต่ออายุลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล
– คณะจังหวัดชายแดนใต้ ตั้งเป้าหมายนำไปสู่สถานที่หารือสันติภาพใน 4 ปีของรัฐบาล
– การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชน กำหนดโรดแมปแต่ละพรรค ที่นำไปสู่การตั้ง ส.ส.ร. ที่มาจากเลือกตั้ง
ทั้งนี้ คณะกรรมการเปลี่ยนผ่านฯ จะปิดตัวลงเมื่อมีรัฐบาลใหม่เกิดขึ้น คาดว่าจะประชุมครั้งสุดท้ายหลังเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้ว โดยได้แจ้งให้คณะทำงานชุดต่าง ๆ เร่งจัดทำข้อสรุปเสนอมายัง คณะกรรมการฯ เพื่อบรรจุเป็นนโยบายของรัฐบาลแถลงต่อสภาฯ ต่อไป
นางสาวศิริกัญญา ยังยอมรับว่า ในที่ประชุมวันนี้ ได้หารือสถานการณ์การเมือง หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง รับรอง ส.ส.ครบทั้ง 500 คน ถือว่าทำหน้าที่ได้อย่างรวดเร็ว และรับรองครบ 500 คนในเวลาเดียวกัน ทำให้กระบวนการต่าง ๆ ทำได้รวดเร็วมากขึ้น จึงได้พูดคุยเรื่องปฏิทินการเมือง เพื่อประเมินกรอบการทำงานของ คณะกรรมการเปลี่ยนผ่าน อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมวันนี้ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องการจัดสรร ครม.พิธา 1
ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุว่า คณะกรรมการประสานงานช่วงเปลี่ยนผ่าน ได้รับฟังข้อเสนอและผลการศึกษาของคณะทำงานย่อย ที่นำนโยบายแต่ละพรรคมาพูดคุยกัน เพื่อบรรจุเป็นนโยบายรัฐบาล ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เสนอนโยบาย ให้คณะทำงานย่อยพิจารณาเพิ่มเติมใน 4 ประเด็น ประกอบด้วย
1.นโยบายเขตเศรษฐกิจใหม่ แก้กฏหมายที่เป็นอุปสรรคต่าง ไ โดยเสนอให้มีการนำร่องเขตเศษฐกิจใหม่ใน 4 พื้นที่ คือ จ.ขอนแก่น เชียงใหม่ กทม.และสงขลา
2.ค่าแรงขั้นต่ำ ควรเป็นเป้าหมายในระยะไกล คือ ปี 2570 ซึ่งค่าแรงควรขึ้นเป็น 600 บาท ควบคู่กับเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท โดยเป็นการขึ้นค่าแรงแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามภาวะการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
3.การเข้าถึงแหล่งทุนของเอ็สเอ็มอี โดยใช้กลไกของ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ซึ่งพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลเห็นร่วมกัน 4.นโยบายตลาดทุน เพิ่มแหล่งระดมทุนในการสร้างเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลให้เกิดขึ้น
สำหรับความคืบหน้าการรวบรวมเสียง ส.ว.นั้น น.ส.ศิริกัญญา เปิดเผยว่า มีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ อีกนิดเดียวใกล้จะถึงเป้าที่ต้องการแล้ว แต่จำเป็นต้องทำเป้าหมายเพิ่มจำนวนให้มากขึ้น ป้องกันกรณีอาจมี ส.ว.เปลี่ยนใจในอนาคต หรือประธานสภาฯ จะต้องงดออกเสียง พร้อมปฏิเสธกระแสข่าว แกนนำพรรคก้าวไกลไปเจรจาขอเสียงจาก นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ว่า ไม่เป็นความจริง
ส่วนเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ นั้น นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่มีการพูดคุยในที่ประชุมคณะกรรมการเปลี่ยนผ่าน ในวันนี้ เพราะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการเจรจามากกว่า เมื่อถามถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยาพรรคพลังประชารัฐ เสนอชื่อ นายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นประธานสภาฯ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เป็นสิทธิที่จะเสนอได้ แต่ยังไม่มั่นใจว่าชื่อที่ ร.อ.ธรรมนัส เสนอจะเป็นใคร แต่เห็นตามข่าวแล้วอาจจะเป็น ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถือเป็นสิทธิ ที่สามารถโหวตแข่งกันระหว่าง 2 ตัวเลือกได้ เหมือนเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้อาจจะมีความพิเศษกว่าครั้งอื่น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: