กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแล เยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมทั้งสภาพจิตใจนักเรียนและครู รร.ราชวินิต มัธยม จากเหตุการณ์ถังดับเพลิงระเบิด พร้อมกำชับเร่งหาสาเหตุ เพื่อป้องกันเกิดซ้ำ ขณะที่ กทม.เร่งหาสาเหตุ และเยียวยา
วันที่ 23 มิถุนายน 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมายให้ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และตนเอง ลงพื้นที่เกิดเหตุโรงเรียนราชวินิต มัธยม เบื้องต้น ทราบว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ เกิดจากถังดับเพลิงที่ใช้ในการสาธิตวิธีการดับเพลิงเกิดการระเบิด โดยโรงเรียนฯ ประสานกรุงเทพมหานคร เพื่อเข้ามาสาธิตวิธีการดับเพลิงให้แก่นักเรียน หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แจ้งกับครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต ถึงขั้นตอน วิธีการ ในการรับการเยียวยา และการให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ แล้ว
“นายกรัฐมนตรี ยังกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบ หาสาเหตุและข้อเท็จจริง ของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ เพื่อสร้างความปลอดภัย ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก พร้อมขอให้ทุกฝ่าย หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลภาพผู้เสียชีวิต บนสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อให้เกียรติแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย” นายอนุชา กล่าว
กทม.เร่งหาสาเหตุ เผย ถังที่ระเบิดอายุ 6 ปี เติมคาร์บอนไดออกไซด์มา แต่ไม่เต็ม ชี้ คนละแบบกับถังดับเพลิงในชุมชน
นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้สูญเสีย เหตุการณ์ครั้งนี้ มีนักเรียนเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 21 คน ได้รับการนำส่งโรงพยาบาลกลาง 2 คน และโรงพยาบาลวชิระ 5 คน นอกนั้นบาดเจ็บเล็กน้อย
ทั้งนี้ ทางโรงเรียนได้ประสาน ให้สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน มาเป็นวิทยากรซ้อมเผชิญเหตุป้องกันอัคคีภัยในโรงเรียน ซึ่งเป็นครั้งแรก ใช้ถังดับเพลิง 14 ถัง วางอยู่ตรงบริเวณลานพระ ห่างจากจุดที่เด็กนั่งอยู่ในประมาณ 10 เมตร เกิดระเบิดขึ้น แล้วถังที่ระเบิดพุ่งไปโดนนักเรียนจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เนื่องจากบาดเจ็บรุนแรง
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า ถังดับเพลิงดังกล่าว เป็นถังคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งมีความดันสูง คือ 800-1,200 PSI ขึ้นไป แตกต่างจากถังดับเพลิงเคมีปกติในชุมชน ที่มีความดันเพียง 100 PSI แต่เวลาซ้อมดับเพลิงจะใช้ถังแบบคาร์บอนไดออกไซด์ เพราะไม่ฟุ้งกระจายมาก ฉีดแล้วจะระเหยทันที ไม่ใช่เป็นสารเคมีที่ปกติฉีดแล้วเป็นควันขาวฟุ้งกระจายเต็มไปหมด
อย่างไรก็ตาม ต้องให้พนักงานสืบสวนตรวจสอบสาเหตุการระเบิดต่อไป เบื้องต้น ถังที่นำมาใช้แล้วระเบิด ตำรวจแจ้งว่ามีอายุประมาณ 6 ปี ได้เติมคาร์บอนไดออกไซด์มา แต่ที่ไม่มีเกจวัดความดัน เพราะเป็นถังที่มีความเย็นมาก ใช้วัดตามน้ำหนักกิโลกรัมแทน ตอนที่ไปเติมล่าสุดก็ไม่ถึงกับเต็มความจุ เนื่องจากต้องนำมาสาธิต
สำหรับสาเหตุว่าทำไมถึงระเบิด ระเบิดรูปแบบไหน ต้องรอการพิสูจน์หลักฐานอย่างชัดเจนก่อน ส่วนถังเป็นของใคร จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ บางส่วนผู้ฝึกอบรมนำมาเอง และบางส่วนเป็นของส่วนกลาง ซึ่งต้องขอไปตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวอีกว่า ผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และนักเรียนทั้งหมด ต้องเยียวยาตามระเบียบของราชการ รวมถึงต้องเยียวยาสภาพจิตใจนักเรียนที่ประสบเหตุ ซึ่ง กทม.จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ที่ดูแล
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มี 2 จุดที่ต้องตรวจสอบ คือ
1.มาตรฐานอุปกรณ์ เนื่องจากไม่ควรจะมีการระเบิดขึ้น
2.การจัดวางอุปกรณ์ก่อนฝึก ซึ่งจากการตรวจสอบเป็นพื้นที่จำกัด อนาคตต้องให้อยู่ห่างกว่านี้หรือไม่ หรือควรมีคอกใส่อุปกรณ์ป้องกัน กทม.ต้องนำมาทบทวน แต่ในประวัติศาสตร์ ไม่เคยเกิดระเบิด นี่อาจจะเป็นครั้งแรก ซึ่งต้องไปหาสาเหตุอย่างจริงจัง
ส่วนถังดับเพลิงแบบใหม่ที่จะแจกตามชุมชนเกือบหมื่นถังนั้น เป็นคนละแบบกับที่ระเบิด เป็นถังพิเศษและมีแรงดันต่ำ ส่วนใหญ่ใช้อยู่ในสถานที่ราชการ จึงไม่ต้องตื่นตระหนก และ กทม.จะเพิ่มความเข้มข้นในการทบทวนตรวจสอบด้านความปลอดภัยของถังดับเพลิงต่อไป
