กรุงเทพฯ – นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ชี้ การแก้ไขมาตรา 112 เป็นทางออกสังคมไทย ยอมรับกังวล ร้อง อย่านำมาเป็นข้ออ้างขวางทางตั้งรัฐบาล
วันที่ 27 มิถุนายน 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตอบคำถามสื่อมวลชน ถึงประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จะเป็นอุปสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาล และจะมีการลดเพดานเรื่องดังกล่าวลงหรือไม่ โดยย้ำว่า การแก้ไขมาตรา 112 เป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลพูดถึงอย่างชัดเจนก่อนจะมีการเลือกตั้งในเกือบทุกเวทีดีเบต จนมีการตกผลึกแล้วว่า การแก้ไขมาตรา 112 คือ สิ่งที่จะเป็นทางออกให้สังคมไทย เพราะที่ผ่านมา มีการใช้มาตรา 112 เป็นเครื่องมือทางการเมือง ในการดำเนินคดีกับเยาวชนมากมาย ซึ่งไม่ได้เป็นผลดีกับสถาบันใดเลย
ดังนั้น เพื่อรักษาสิ่งที่เรารัก จึงต้องแก้ไขให้เป็นไปตามบริบทของสังคม และมั่นใจว่า ประเด็นนี้จะไม่ทำให้เส้นทางการตั้งรัฐบาลสะดุดลง ที่ผ่านมา ข้อมูลจากหลายฝ่ายอาจทำให้คนเข้าใจผิดไปบ้าง แต่พรรคก้าวไกลยืนยันเสมอมาว่าการแก้ไขไม่ใช่การยกเลิก และเท่าที่ได้คุยกับ ส.ว.หลายคน ก็ปรากฏว่ามีความเข้าใจมากขึ้นแล้ว ว่าเป็นการรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
อย่างไรก็ตาม นายพิธา ยอมรับว่า หากจะมีการหยิบยกกรณีนี้ ขึ้นมาเป็นประเด็นจริง จนกลายเป็นอุสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาล ก็น่ากังวลใจ เพราะถือเป็นการนำเสียงที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน มาปะทะกับสถาบันฯ โดยตรง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและอันตรายอย่างยิ่ง จึงขอร้องว่าอย่าเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 มาเป็นข้ออ้างอีกเลย
นายพิธา ยังกล่าวถึงคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวานนี้ (26 มิถุนายน) ที่ให้อัยการสูงสุดชี้แจงว่า จะรับหรือไม่รับคดีล้มล้างการปกครอง จากกรณีพรรคก้าวไกลเสนอแก้ไขมาตรา 112 ว่า เป็นเรื่องระหว่างศาลรัฐธรรมนูญกับอัยการสูงสุด ซึ่งไม่น่ากังวลใจ อีกทั้งการแก้ไขกฎหมายหนึ่ง ไม่เท่ากับการล้มล้างการปกครองแน่ ๆ จึงเป็นข้อกล่าวหาที่เกินจริงไปมาก
