กรุงเทพฯ – โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เผย พรรคพร้อมสนับสนุนคนที่เหมาะสม ดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ แต่ไม่สนับสนุนคนจากพรรคที่มีนโยบายแก้ไข มาตรา 112
วันที่ 2 กรกฎาคม 2566 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ ว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีจุดยืนที่ชัดเจนว่า จะให้การสนับสนุนบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อ มาจากพรรคการเมืองที่ไม่มีนโยบาย ในการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และจะต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ มีความรู้ ความสามารถ รู้ข้อบังคับและประเพณีปฏิบัติของสภาฯ เป็นอย่างดี เพราะจะเป็นส่วนสำคัญในการทำให้การประชุมสภาฯ ราบรื่นและถูกต้อง
รวมถึงยังจะต้องเป็นคนที่มีความประนีประนอม เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของสมาชิก เพราะหากได้ผู้ที่มีบุคลิกแข็งกร้าว อาจจะไม่เป็นที่ยอมรับของสมาชิก และจะทำให้การประชุมและการทำภารกิจในสภาไม่ราบรื่น เพราะการยอมรับของสมาชิกเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงเมื่อดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ แล้ว ต้องวางตัวเป็นกลาง ไม่นำวาระของพรรคใดพรรคหนึ่งมาเลือกปฏิบัติโดยขาดความเป็นกลาง
โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้พรรค รทสช. ยังอยู่ระหว่างรอดูท่าทีก่อนว่า จะมีรายชื่อบุคคลใดที่เสนอให้เป็นประธานสภาฯ ที่เหมาะสม ซึ่งพรรคต้องให้โอกาส พรรคที่มีจำนวน ส.ส.มากกว่า รทสช.ก่อน อย่างไรก็ตาม การดำเนินการทุกอย่างของพรรค จะต้องขึ้นอยู่กับมติของพรรคด้วย
ด้านรองหัวหน้า รทสช.ขอม็อบชุมนุมโดยสงบ ไม่ปิดล้อมสภาฯ อย่านำประเทศกลับสู่วังวนความขัดแย้งอีก
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมนัดรวมตัวหน้าอาคารรัฐสภา ในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ เพื่อติดตามการประชุมสภาฯ ในการเลือกประธานสภาฯ ว่า การชุมนุมเป็นสิทธิของประชาชน ตามหลักประชาธิปไตยในรัฐธรรมนูญ แต่ต้องชุมนุมด้วยความสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ และหากผลการประชุมออกมาตรงข้ามกับข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม ก็ไม่ควรมีการปิดล้อมสภาฯ เพราะจะทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสมต่อประเทศ เนื่องจากเราผ่านการเลือกตั้ง มอบอำนาจให้ ส.ส.ทำหน้าที่ในสภาฯ มาแล้ว ควรจะให้ ส.ส.ขับเคลื่อนการทำงานผ่านระบบสภาฯจะดีกว่า จึงขอฝากถึงผู้ชุมนุม จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวในความสงบ ไม่ก่อเหตุวุ่นวายรุนแรง ไม่นำพาประเทศกลับสู่วังวนความขัดแย้งอีก
ส่วนการชุมนุมเกิดขึ้นตั้งแต่สภาฯ เปิดนัดแรก แบบนี้แนวโน้มทางการเมืองจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อไป นายธนกร กล่าวว่า เราผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว หวังให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อ ด้วยความสงบ มั่นคง แต่หากเกิดการชุมนุม ย่อมจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่นนักลงทุน กระทบเศรษฐกิจ และเสถียรภาพของประเทศจะลดลงตามมา
“จึงอยากฝากรัฐบาลชุดใหม่ ช่วยรักษาเสถียรภาพประเทศ สานต่อการทำงานที่ประสบความสำเร็จของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำมาอย่างต่อเนื่องกว่า 8 ปี และขอผู้ชุมนุมนึกถึงประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมืองมาก่อน” นายธนกร กล่าว
