กรุงเทพฯ – นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขอบคุณ 13 ส.ว. โหวตนายกรัฐมนตรี ตามฉันทามติประชาชน เตรียมวางยุทธศาสตร์เลือกรอบ 2
วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ภายหลังพ่ายแพ้การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ของที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งมีสมาชิกรัฐสภาเห็นชอบให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล 324 เสียง ไม่เห็นชอบ 182 เสียง และงดออกเสียง 199 เสียง ซึ่งไม่ถึงกึ่งหนึ่ง พลาดเก้าอี้นายกรัฐมนตรีไปในรอบแรก
นายพิธา กล่าวยอมรับผลการลงมติ แต่ก็ระบุว่า มีการกดดัน ส.ว. และมี ส.ว.ไม่มาประชุมราว 40 คน ทำให้การลงคะแนนไม่ตรงตามที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณ ส.ว.ทั้ง 13 คน ที่กล้าหาญและลงมติตามที่เคยสัญญากับประชาชน ขอยืนยันว่ายังไม่ยอมแพ้ จะใช้เวลาหลังจากนี้ หายุทธศาสตร์เพื่อรวบรวมเสียง มุ่งหน้าสู่การลงมติครั้งที่ 2 ซึ่งขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภาว่า จะกำหนดเป็นวันใด
ส่วนยังมีความมั่นใจในการจับมือกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่าผลโหวตบอกอย่างนั้น เรายังทำงานด้วยความเชื่อใจซึ่งกันและกันกับพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล
เมื่อถามว่า ในรอบหน้า พรรคก้าวไกลต้องยอมถอยนโยบายแก้ไข มาตรา 112 หรือไม่ หรือจะปรับอย่างไรเพื่อหารือกับ ส.ว. นายพิธายืนยันว่า ยังเหมือนเดิม สัญญากับประชาชนไว้อย่างไร ก็ทำอย่างนั้น วันนี้ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ได้มีโอกาสอธิบายชี้แจงเรื่องนี้ในรัฐสภา ว่าสิ่งที่พยายามนำเสนอนั้น มีเป้าหมายเดียวกันกับวุฒิสภา หรือ ส.ส.หลายคน เพียงแต่อาจประเมินต่างกัน หรือเข้าใจคลาดเคลื่อน ถ้ามีเวลาจะทำความเข้าใจเพิ่มเติมได้
สำหรับ ส.ว. 13 คน ที่โหวตเห็นชอบนายพิธา มีดังนี้
1.ศ.เกียรติคุณ นพ.ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์
2.จรุงวิทย์ ภุมมา
3.เฉลา พวงมาลัย
4.ซากีย์ พิทักษ์คุมพล
5.พล.ต.ท.ณัฏฐวัฒก์ รอดบางยาง
6.ประภาศรี สุฉันทบุตร
7.พิศาล มาณวพัฒน์
8.พีระศักดิ์ พอจิต
9.มณเฑียร บุญตัน
10.วันชัย สอนศิริ
11.วุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์
12.สุรเดช จิรัฐิติเจริญ
13.นพ.อำพล จินดาวัฒนะ
