กรุงเทพฯ – นายภูมิธรรม เวชยชัย ลั่น งดออกเสียงแก้มาตรา 272 ขอโฟกัสเรื่องจัดตั้งรัฐบาลก่อน ชี้ พรรคเพื่อไทยและก้าวไกล ยังไม่เคาะเสนอชื่อ นายพิธา ต้องตอบให้ได้ก่อน จะสู้ถึงที่สุดเมื่อไหร่ ก่อนโหวตรอบสอง
วันที่ 16 กรกฎาคม 2566 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มองว่า การสื่อสารระหว่างตัวแทนพรรคก้าวไกล ที่ร่วมหารือกับพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 14 ก.ค. กับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อาจมีความคลาดเคลื่อน หลังนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ขอสู้อีก 2 สมรภูมิ คือ การโหวตนายกรัฐมนตรี วันที่ 19 ก.ค.นี้ และการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว.ในการโหวตเลือกนายกฯ
เนื่องจากการหารือของตัวแทนทั้ง 2 พรรค ยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับการเสนอชื่อ นายพิธา ชิงนายกฯ ในวันที่ 19 ก.ค. เพราะยังคงมีความเห็นต่างที่แต่ละพรรคยังสงวนความคิดเห็น ขอไปหารือภายในกันก่อน แล้วค่อยไปหารือกับ 8 พรรคร่วม ที่เดิมกำหนดเป็นเช้าวันที่ 18 ก.ค. แต่เปลี่ยนมาเป็นเย็นวันที่ 17 ก.ค. ก่อนที่ทั้งสองพรรคจะนำความเห็นมาหารือกันอีกครั้ง เพื่อกำหนดเป็นแนวทางโหวตนายกฯ วันที่ 19 ก.ค.
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยอีกว่า เรื่องที่ทั้งสองพรรคสงวนความคิดเห็นกลับไปพิจารณาภายใน เช่น การเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ที่มีหลายฝ่ายออกมาตั้งข้อสังเกตว่า ถือเป็นการเสนอญัตติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 หรือไม่ เพราะการเสนอญัตติซ้ำในสมัยประชุมเดียวกันไม่สามารถทำได้ทางออกของเรื่องนี้ คือ ประธานรัฐสภาจะเป็นผู้วินิจฉัย หรือให้ที่ประชุมลงมติหาทางออกร่วมกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงทั้ง 2 แนวทาง แต่ถ้าสามารถเสนอชื่อนายพิธาได้ 141 เสียงของพรรคเพื่อไทยก็พร้อมสนับสนุน
ข่าวน่าสนใจ:
อย่างไรก็ตาม นายพิธา ต้องตอบให้ชัดว่า สมรภูมินี้จะสู้ถึงที่สุดเมื่อไหร่ เพราะคะแนนที่ออกมาจากการโหวตครั้งแรก เห็นชัดเจนว่าการจะไปถึง 376 เสียงนั้นลำบาก เพราะคะแนนเสียง ส.ว.ที่ได้มาเพียง 13 เสียง กว่าจะไปถึง 64 เสียงได้ พรรคก้าวไกลต้องตอบให้ได้ว่า จะนำมาจากไหน การเสนอครั้งนี้มีโอกาสสำเร็จหรือไม่ นอกจากนี้ ยังมีประเด็นซีกรัฐบาลเดิมจะเสนอชื่อแข่งอีก ซึ่งต้องได้คำตอบที่ชัดเจน ก่อนจะโหวตวันที่ 19 ก.ค. แต่ขอสงวนสิทธิที่จะตอบคำถามว่า ถ้าไม่เสนอชื่อ นายพิธา 8 พรรคร่วมจะเสนอชื่อใคร
นายภูมิธรรม ยังให้ความเห็นถึงกระแสข่าว การที่พรรคก้าวไกลไม่ได้เสียง ส.ว.ตามที่พูดไว้ ถือเป็นการหลอกพรรคร่วมด้วยกัน และเอ็มโอยูที่เซ็นกันไว้ถือว่ายุติไป ตั้งแต่วันที่ผลโหวตนายกฯ ครั้งแรกออกมา ว่า สามารถคิดได้ เพราะตัวเลขที่ออกมาคลาดเคลื่อนจากที่พรรคก้าวไกลออกมาระบุ แต่อีกมุมหนึ่งตัวเลขที่คลาดเคลื่อน อาจเกินจากประสบการณ์ที่ไม่เข้าใจความคิดของ ส.ว.ทำให้ประเมินผิดพลาด แต่ไม่ขอตอบว่า เอ็มโอยูสิ้นสุดไปแล้ว แต่สิ่งที่เห็นคือมีการเพิ่มเนื้อหาของเอ็มโอยู ที่ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงเดิม ตามที่นายพิธาแสดงความคิดเห็นออกมา แต่ 8 พรรคร่วมยังไม่ได้ข้อสรุปร่วมกัน
ชี้ ก้าวไกล ดัน แก้ ม.272 แค่สัญญลักษณ์ พร้อมงดออกเสียง ถ้าเข้าสภาฯ
นายภูมิธรรม ให้ความเห็นถึงการที่พรรคก้าวไกล ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ในช่วงนี้ว่า เพื่อไทยเคยยื่นแก้ไขมาตรานี้ไปแล้ว 2 ครั้ง โดยไม่ผ่านการพิจารณา และในตอนนั้นพรรคก้าวไกลเองก็งดออกเสียง ในสภาฯ ที่ผ่านมา มีการเสนอเรื่องนี้ไปแล้ว 6-7 ครั้ง แต่ไม่ผ่านทั้งหมด เหตุใดจึงมาผลักดันช่วงนี้ ซึ่งเพื่อไทยมองว่าไม่ใช่เรื่องด่วนที่ต้องทำตอนนี้ เพราะทราบผลอยู่แล้วว่าไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องมีเสียงฝ่ายค้านสนับสนุน 20 % ตอนนี้ยังไม่มีฝ่ายค้าน และต้องได้เสียง ส.ว.1 ใน 3 หรือ 84 เสียง จะหามาจากไหน จึงเป็นการเสนอเพื่อเป็นสัญลักษณ์เท่านั้น
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับการเสนอแก้ไขรายมาตรา จึงทำเป็นนโยบายว่า ถ้าได้เป็นรัฐบาล จะนำเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อทำประชามติแก้ทั้งระบบ โดยการตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมา เชื่อว่าจะเสร็จสิ้นใน 1-2 ปี และถ้าเรื่องแก้ไขมาตรา 272 ของพรรคก้าวไกลเข้าสภาฯ พรรคเพื่อไทยจะงดออกเสียง เพราะต้องให้โฟกัสเรื่องจัดตั้งรัฐบาลเป็นสำคัญที่สุด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: