กรุงเทพฯ – พรรคก้าวไกล เปิดทางให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล พร้อมเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หยุดยั้งการสืบทอดอำนาจรัฐบาลเดิม ชี้ ฝ่ายอนุรักษ์ฯ ทำทุกวิถีทางเพื่อสกัด ‘ก้าวไกล-พิธา’
วันที่ 21 กรกฎาคม 2566 นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงความคืบหน้าการเจรจาจัดตั้งรัฐบาล หลังที่ประชุมรัฐสภา มีมติไม่ให้โหวตชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซ้ำว่า การที่พิธาไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ไม่ได้หมายความว่าภารกิจการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อพลิกขั้วอำนาจรัฐบาลจะไม่สำเร็จไปด้วย เป้าหมายสูงสุดของเราในฐานะพรรคอันดับ 1 ยังคงอยู่ นั่นคือการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเดิมให้สำเร็จ
สิ่งสำคัญในวันนี้ จึงไม่ใช่เรื่องพิธา จะเป็นนายกฯ หรือไม่ แต่คือเรื่องการจะกลับสู่ประชาธิปไตยได้หรือไม่ หยุดการสืบทอดอำนาจได้หรือไม่ เมื่อเป็นเช่นนี้ พรรคก้าวไกลจะเปิดโอกาสให้ประเทศ โดยให้พรรคอันดับสอง คือ พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของพันธมิตร 8 พรรคที่ได้เคยทำMOU กันไว้
ข่าวน่าสนใจ:
ดังนั้น ในการประชุมรัฐสภาครั้งต่อไป พรรคก้าวไกลจะเสนอชื่อแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เช่นเดียวกับที่พรรคเพื่อไทยเคยสนับสนุนพรรคก้าวไกล
สำหรับเงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยนั้น เลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุว่า หลังจากนี้จะเป็นบทบาทหลักของพรรคเพื่อไทย ในการพูดคุยถึงแนวทางการจัดตั้งรัฐบาล ขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยว่า จะเสนอแคนดิเดตนายกฯ คนไหน ในการประชุมรัฐสภาครั้งหน้า พรรคก้าวไกลไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นใครโดยเฉพาะ ขึ้นอยู่กับมติของพรรคเพื่อไทย เราต้องเคารพ
ส่วนหากแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา จะถือว่าการเสนอแคนดิเดตคนนั้นจบลงเลยหรือไม่ นายชัยธวัช ย้ำว่า จุดยืนของพรรคก้าวไกล ไม่ยอมรับการตีความข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 ยังยืนยันว่ามติของรัฐสภาครั้งที่แล้วขัดต่อรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า คิดเห็นอย่างไรต่อบทบาทการทำหน้าที่ของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาในการประชุมรัฐสภาครั้งที่ผ่านมา นายชัยธวัชให้ความเห็นว่า ประธานรัฐสภาสามารถวินิจฉัยได้แต่เมื่อมีความเห็นแตกต่างกันมาก ประธานฯ อาจเห็นว่าควรให้สมาชิกได้อภิปรายถกเถียงกันอย่างเต็มที่และมีมติร่วมกัน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ผ่านไปแล้ว หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีก ในรัฐสภาชุดนี้
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคเพื่อไทย ถึงเงื่อนไขเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ที่อาจจะทำให้ 8 พรรค ไม่อยากเข้าร่วมกับก้าวไกลต่อ จากนี้ เป็นบทบาทของพรรคเพื่อไทย ในการพูดกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ตามเจตจำนงค์ของประชาชน ที่หวังจะเห็นการยุติการสืบทอดอำนาจของขั้วรัฐบาลเดิม
ถามต่อว่า ไม่ติดชัดใช่หรือไม่ ถ้าเพื่อไทยจะไม่ชูนโยบาย แก้ไขมาตรา 112 นายชัยธวัช บอกว่ายังไม่ได้พูดคุยกัน ตอนนี้ตามมารยาท เมื่อพรรคก้าวไกลเปิดให้เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว การพูดคุยกันหลังจากนี้ คงต้องเป็นบทบาทหลักของเพื่อไทย ซึ่งจะมีเงื่อนไขอะไร แล้วยอมรับได้หรือไม่ต้องรอเพื่อไทยก่อน
เมื่อถามถึงจุดยืน ที่เคยประกาศว่าจะไม่เอาสองลุง ถ้ามีพรรคของสองลุงมาร่วม จะไม่สามารถร่วมได้ใช่หรือไม่ เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นจุดยืนที่ชัดเจนของพรรค ที่ไม่สามารถเสียสัจจะได้
ส่วนคิดอย่างไรกับคำพูดว่า ก้าวไกลต้องเสียสละ นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องรอดูอย่าเพิ่งรีบสรุปพรรคจะต้องพูดคุยกับเพื่อไทยหลังจากนี้ “ผมคิดว่าคนที่ไม่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง คนที่ไม่ยอมรับหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยต่างหาก ที่ควรจะมีสำนึกว่าการกระทำแบบนี้จะไม่ส่งผลดีต่อบ้านเมืองในระยะยาว”
ชมคลิปแถลงข่าวที่ลิงก์ด้านล่าง :
‘ก้าวไกล’ เปิดทางพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาล พร้อมเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ
https://www.facebook.com/reel/840112164395511?fs=e&s=TIeQ9V&mibextid=0NULKw
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: