กรุงเทพฯ – พรรคเพื่อไทย เดินหน้าหารือ 3 พรรค ‘ภูมิใจไทย-ชาติพัฒนากล้า-รวมไทยสร้างชาติ’ หาทางออกประเทศ เร่งจัดตั้งรัฐบาลแก้ปัญหาให้ประชาชน ตามมติ 8 พรรคร่วม
วันที่ 22 กรกฎาคม 2566 ที่พรรคเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้หารือหาทางออกให้ประเทศ กับพรรคการเมืองต่าง ๆ ตามติ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ที่มอบภารกิจให้พรรคเพื่อไทยหาเสียงสนับสนุนเพิ่มเติม
โดยในวันนี้ ซึ่งเป็นวันแรก พรรคเพื่อไทยเชิญ 3 พรรคการเมืองเข้ามาหารือทีละพรรค ดังนี้
เวลา 14.00 น. พรรคภูมิใจไทย
เวลา 16.00 น. พรรคชาติพัฒนากล้า
เวลา 17.00 น. พรรครวมไทยสร้างชาติ
และภายหลังการหารือกับแต่ละพรรค ได้มีการแถลงข่าว ก่อนชนแก้วเครื่องดื่มต่อหน้าสื่อมวลชน ที่ร้านกาแฟ ชั้น 1 ในอาคารที่ทำการพรรคเพื่อไทย
มี ‘ภูมิใจไทย’ ต้องไม่มี ‘ก้าวไกล’
นายอนุทิน ชาญวีรกูลหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นำแกนนำพรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค, นายพิพัฒน์ รัชกิจปราการ รองหัวหน้าพรรค และนายไชยชนก ชิดชอบ ส.ส.บุรีรัมย์ ลูกชายนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย เข้าหารือ
นายอนุทิน กล่าวขอบคุณพรรคเพื่อไทย ที่เชิญมาหารือถึงการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ซึ่งเป็นไปด้วยบรรยากาศที่ดี เพราะทุกคนเคยอาศัยอยู่ที่นี่มาก่อน เมื่อได้กลับมาก็รู้สึกดีใจและนึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ ได้มารับทราบเจตนารมณ์ของพรรคเพื่อไทย ที่อยากจะให้แก้ปัญหาการเมืองโดยเร็วที่สุด อยากให้ประเทศไทยมีรัฐบาลมาบริหารราชการแผ่นดินโดยเร็วที่สุด ซึ่งได้แจ้งพรรคเพื่อไทยว่า พรรคภูมิใจไทยมีข้อจำกัดอย่างไรบ้าง และไม่สามารถทำงานได้ หากยังมีพรรคก้าวไกลอยู่ แม้ไม่ได้เป็นเรื่องความขัดแย้งใด ๆ หรือเรื่องมาตรา 112 แต่เป็นเรื่องแนวทางการทำงาน ความคิด และวิธีการทำงาน แต่หากสามารถผ่านอุปสรรคไปได้ พรรคภูมิใจไทยก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับพรรคเพื่อไทย เพื่อประโยชน์ของประเทศ
ส่วนพรรคภูมิใจไทย พร้อมโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ในสภาฯ ต่างคนต่างมีบทบาท ถ้าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล ก็จำเป็นต้องโหวตในความเป็นคนละฟากกัน แต่ยังต้องพูดคุยกันอีกหลายรอบหลายประเด็น แต่หากมีความจำเป็น ว่าทำแล้วประเทศเดินหน้าได้ ก็จะพิจารณา
‘ชาติพัฒนากล้า’ ประกาศจุดยืน ต้องไม่แก้ ม.112
พรรคที่สอง ที่เข้าหารือกับพรรคเพื่อไทย คือ พรรคชาติพัฒนากล้า นำโดย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค พร้อมด้วย นายเทวัจน์ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค และนายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรค
นายสุวัจน์ ระบุว่า พรรคชาติพัฒนากล้ามีมติเข้าร่วมรัฐบาล ยินดีให้การสนับสนุนจัดตั้งรัฐบาลให้ลุล่วง เพื่อไม่ให้เกิดสุญญาการในการบริหารบ้านเมือง เพราะมีวิกฤตเศรษฐกิจที่ประชาชนรอการแก้ไข พรรคชาติพัฒนากล้ามีจุดยืน สนับสนุนรัฐบาลจากเสียงข้างมาก และเชื่อว่าการเปลี่ยนพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มาเป็นพรรคเพื่อไทย จะสามารถนำไปสู่การบริหารประเทศได้ ดังนั้น พรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล และจะสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย แต่ถ้านโยบายการแก้ไข มาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลยังอยู่ ซึ่งไม่สอดคล้องกับแนวทางของพรรคชาติพัฒนากล้า ก็อาจจะไม่สามารถเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะไม่ตรงตามมติพรรค และไม่ตรงกับคำมั่นสัญญาที่ได้ประกาศไว้กับประชาชน
‘รทสช.’ ลั่น ไม่เอา ‘ก้าวไกล’ ชี้ ปล่อยให้มีอำนาจไม่ได้
พรรคสุดท้ายที่เข้าหารือกับพรรคเพื่อไทย ในวันนี้ คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นำโดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรค
นายพีระพันธุ์ ระบุว่า ได้อธิบายเหตุผลและแนวทางของพรรค รทสช. ว่าเหตุใดไม่สามารถรับพรรคการเมืองบางพรรคได้ ไม่มีการเจรจาร่วมงานหรือตั้งเงื่อนไขใด ๆ และไม่ได้พูดคุยถึงการร่วมรัฐบาล แม้ไม่มีพรรคก้าวไกล และไม่มีการแก้ไขม.112 รทสช.ไม่ได้ติดขัดแค่เรื่อง ม.112 แต่แนวทางอุดมการณ์ต่างกันเยอะมาก และไม่สามารถให้เขามีอำนาจการเมืองเยอะไปกว่านี้ได้
“ที่มาพูดคุยกันวันนี้ไม่มีเรื่องการจะร่วมงานกัน เพียงแต่มาอธิบายเหตุผลว่า ไม่มีเจตนาขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาล เพราะเราเองก็เป็นห่วงชาติบ้านเมือง เพียงแต่มีเหตุผลบางอย่างที่เราจำเป็นจะต้องปฏิเสธ และไม่เคยบอกว่าจะสนับสนุนพรรคเพื่อไทย เพียงแต่มาบอกว่า เพราะอะไรจึงไม่สามารถรับได้กับบางพรรคการเมือง” นายพีระพันธุ์ ย้ำ
เมื่อถามว่า การตัดสินใจวันนี้ จะนำไปสู่เหตุผลโหวตพรรค พท. เป็นนายกฯ หรือไม่ นายพีระพันธุ์ ระบุว่า อยู่ที่มีใครร่วมรัฐบาลบ้าง ถ้ามีบางพรรคที่ รทสช.รับไม่ได้อยู่ ก็ไม่ให้ และไม่ว่าใครเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็ตาม ถ้าไม่มีพรรค ก.ก.ก็จะพิจารณายกมือให้ได้
เมื่อถามอีกว่า ที่ผ่านมา พรรค รทสช. กับพรรค พท. เป็นคู่ขัดแย้งกันมาก่อน แต่วันนี้มาพูดคุยกัน แสดงว่าพร้อมทำงานร่วมกันแล้วใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์ ย้ำว่า ไม่ได้มาคุยเรื่องการร่วมงานหรือตั้งรัฐบาล พรรค รทสช.เป็นห่วงบ้านเมือง พรรคเราประกอบไปด้วยผู้คนที่หลากหลาย มีแนวคิดในอดีตที่ต่างกัน แต่วันนี้เป็นพรรค รทสช.จึงไม่มีเรื่องของอดีตเข้ามาเกี่ยวข้องอีก เป็นเรื่องของปัจจุบัน
ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ค.66) พรรคเพื่อไทย เชิญพรรคชาติไทยพัฒนา หารือในเวลา 14.00 น.
