กรุงเทพฯ – หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ย้ำ ไม่ยุ่งเกี่ยวพรรคการเมืองที่มีทัศนคติไม่ดีต่อสถาบัน ด้านพรรคพลังประชารัฐ ย้ำจุดยืนความมั่นคง ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ พร้อมก้าวข้ามความขัดแย้ง
วันที่ 23 กรกฎาคม 2566 ความคืบหน้า พรรคเพื่อไทยส่งหนังสือเชิญพรรคการเมืองต่างขั้ว หารือแนวทางการแก้ไขปัญหาวิกฤตและทางออกของประเทศ ร่วมกัน โดยวานนี้ (22 ก.ค.) หารือกับ 3 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย ชาติพัฒนากล้า และรวมไทยสร้างชาติ สำหรับวันนี้ (23 ก.ค.) ซึ่งเป็นวันที่สอง
เวลา 14.00 น. จะหารือกับ พรรคชาติไทยพัฒนา นำโดย นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค
เวลา 16.00 น. จะหารือกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ส่ง นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค นำคณะเข้าหารือ
‘วราวุธ’ ย้ำจุดยืน ไม่ยุ่งเกี่ยวพรรคการเมืองแก้ ม.112 และมีทัศนคติไม่ดีต่อสถาบัน
นายวราวุธ ศิลปอาชา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยถึงการเตรียมหารือ แนวทางการแก้ไขปัญหาวิกฤตและทางออกของประเทศ ร่วมกับพรรคเพื่อไทย ในเวลา 14.00 น. วันนี้ (23 ก.ค.) ว่า จะต้องรอพรรคเพื่อไทยก่อนว่า จะมีการหารือเรื่องใดบ้าง แต่จะยังคงย้ำจุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนา ว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการแก้ไขหรือยกเลิก ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 รวมไปถึงไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองที่มีทัศนคติไม่ดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เพราะถือเป็นหลักการพื้นฐานที่สำคัญของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่นอกจากพรรคจะพร้อมทำงานให้ประชาชนแล้ว ยังจะทำงานเพื่อสถาบันหลักของชาติ 3 สถาบันด้วย
ส่วนถ้ามีข้อเสนอให้ พรรคชาติไทยพัฒนาร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยังคงมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลอยู่ด้วย จะทำอย่างไร นายวราวุธ ระบุว่า พรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย แต่พรรคเพื่อไทยจะต้องไม่ทำงานร่วมกับ พรรคการเมืองที่มีนโยบายเกี่ยวข้องกับการแก้ไข หรือยกเลิกมาตรา 112 หรือมีทัศนคติในแง่ลบกับสถาบันหลักของชาติ แต่หากพรรคเพื่อไทยยังคงยืนยันเช่นเดิม พรรคชาติไทยพัฒนาก็พร้อมเป็นฝ่ายค้าน ต่างคนต่างทำงาน
พปชร.ย้ำจุดยืน ทำเพื่อ ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ พร้อมก้าวข้ามความขัดแย้ง
นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า พปชร.ยังคงย้ำจุดยืน เรื่องความมั่นคงของ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นหัวใจสำคัญของประเทศ ที่จะต้องช่วยกันรักษาไว้ รวมถึงการไม่ยกเลิกหรือแก้ไข มาตรา 112 หากพรรคใดพรรคหนึ่งมีแนวนโยบายดังกล่าว ก็ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้
การพูดคุยในวันนี้ เป็นการหาทางออกในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนแก้ปัญหาบ้านเมือง เพราะหากขาดรัฐบาลนานไป ประชาชนและนักลงทุนจะเกิดความกังวล เป็นไปตามนโยบายของ พปชร.ที่ต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง ดังนั้น สิ่งใดที่เป็นการทำเพื่อบ้านเมืองก็พร้อมพูดคุย ซึ่ง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รับทราบแล้ว ถือว่าเป็นการทำงานของพรรค
นายสันติ เปิดเผยอีกว่า เห็นด้วยที่พรรคเพื่อไทย เลือกใช้วิธีส่งหนังสือเทียบเชิญไปยังขั้วรัฐบาลเดิม เพื่อร่วมกันหาทางออกประเทศ เพราะทุกพรรคการเมืองต้องมองว่า การขาดรัฐบาลจะส่งผลให้การขับเคลื่อนนโยบายให้กับประชาชน เนื่องจาก ครม.รักษาการ ไม่สามารถทำอะไรได้มาก นักลงทุนย่อมมองทิศทางเศรษฐกิจของประเทศไทยอยู่
ส่วนกระแสข่าวอาจจะถูกเทียบเชิญร่วมรัฐบาลด้วยนั้น เลขาธิการ พปชร. ชี้ว่า เป็นเพียงกระแสข่าว ตอนนี้ยังไม่มีอะไร สนใจแค่ประเทศจะได้รัฐบาลใหม่เมื่อไหร่ และเป็นรัฐบาลที่รัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย ทำเพื่อพี่น้องประชาชน เกิดความมั่นคงในประเทศ
