กรุงเทพฯ – พรรคภูมิใจไทย ยื่น 3 เงื่อนไข จัดตั้งรัฐบาลกับ พรรรคเพื่อไทย ไม่แตะ ม.112 ไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และไม่มีพรรคก้าวไกล ขณะเพื่อไทย แจง ‘ไล่หนูตีงูเห่า’ แค่เทคนิคหาเสียง เผย ภารกิจแรก แก้รัฐธรรมนูญ
วันที่ 7 สิงหาคม 2566 ในการแถลงร่วมจัดตั้งรัฐบาล ระหว่างพรรคเพื่อไทย กับ พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงเหตุผลในการร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ว่า หลังการหารือกันเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน พรรคภูมิใจไทยไม่ขัดข้องที่จะร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย โดยมี 3 เงื่อนไข คือ
1.ไม่แตะ มาตรา 112
2.ไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย
3.ไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล
ซึ่งวันนี้ทราบจากพรรคเพื่อไทยแล้ว ว่า พรรคเพื่อไทยเห็นพ้องไปในทางเดียวกัน ดังนั้น เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินและการบริหารประเทศเดินหน้าไปโดยมีปัญหาน้อยที่สุด ถ้ายังไม่มีการเชิญพรรคอื่นมาหารือ ก็ให้ถือว่า วันนี้ มี 212 เสียง คือ พรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย เพื่อที่เมื่อไปหารือกับพรรคอื่น ๆ จะได้มีความมั่นใจว่า ขั้วนี้จะสามารถตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งในเบื้องต้น พรรคเพื่อไทยรายงานว่า มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรแน่นอน และหากได้สัญญาณที่แน่นอนแล้ว จะร่วมกับการหาเสียงสนับสนุน ทั้งจาก ส.ส. และ ส.ว.
ข่าวน่าสนใจ:
ส่วนการเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคภูมิใจไทยจะทำตามข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย ในการเสนอชื่อ ในวัน-เวลา ที่ประธานรัฐสภา เป็นผู้กำหนด
ด้านนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า แคนดิเดตนายกฯ ยังคงเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน ตามที่สื่อรับรู้ทั่วไป สำหรับเงื่อนไขที่ภูมิใจไทยเสนอมา 3 ข้อ เพื่อไทยรับได้ และขอบคุณกับคำว่า 212 เสียง ถือว่าเป็นเสียงตั้งต้นที่ค่อนข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาล ประเด็นที่คนสงสัย เช่น 188 เสียง ก็จะตกไป
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลด้วยการสนับสนุนจากพรรคการเมืองต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้ได้เกินกึ่งหนึ่งแล้ว แต่ยังต้องการเสียงจากทั้ง ส.ส. และ ส.ว. เพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว เราต้องการการสนับสนุนจากทุกฝ่าย เพราะยิ่งประวิงเวลาออกไปจะยิ่งสร้างความเสียหายมากขึ้น แต่ยิ่งตั้งรัฐบาลโดยเร็วเท่าไร ก็แก้ปัญหาให้ประชาชนได้เร็วเท่านั้น และหากฝ่ายค้านเสนอกฎหมายที่เป็นประโยชน์ก็พร้อมสนับสนุน และเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านตรวจสอบ
‘ชลน่าน’ สยบ ‘ไล่หนูตีงูเห่า’ เป็นเพียงเทคนิคหาเสียง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงที่มีการหาเสียงก่อนการเลือกตั้ง มีบางช่วง พรรคเพื่อไทยใช้ถ้อยคำ “ไล่หนูตีงูเห่า” นายแพทย์ชลน่าน ชี้แจงว่า เป็นเพียงเทคนิควิธีการหาเสียง ที่ต่างฝ่ายต่างมี อาจจะมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง เพื่อให้ได้คะแนนเสียงเลือกตั้งเท่านั้น แต่พรรคเพื่อไทยไม่เคยประกาศเป็นศัตรูกับใคร ทุกพรรคเป็นคู่แข่งทางการเมืองกัน หลังจากยุติเลือกตั้ง ประชาชนตัดสินใจแล้วว่ามอบอำนาจให้ใคร ก็มาทำหน้าที่ตามที่รับมอบอำนาจ ถ้าสามารถร่วมทำงานกันได้ ก็มาเป็นรัฐบาลร่วมกันได้
ส่วนได้ถอนฟ้อง นายเศรษฐา ทวีสิน กรณีปราศรัยโจมตีนโยบายกัญชา ว่า มอมเมาประชาชนหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า ถอนไปแล้ว
เมื่อถามว่า จะให้ความมั่นใจได้อย่างไร ว่า เพื่อไทยกับภูมิใจไทย จะจับมือด้วยกันไปได้ตลอด ถ้าเทียบการจับมือของเพื่อไทยกับก้าวไกล ในช่วงที่ผ่านมา นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า การตั้งรัฐบาลมีข้อกำจัดตามรัฐธรรมนูญที่ไม่ยึดเอาเสียงของประชาชนเป็นหลัก เพราะการเลือกนายกฯ ต้องอาศัยเสียง ส.ว. ทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลได้ ส่วนการจับมือกับภูมิใจไทย ที่ได้เสียงจากประชาชนมาเป็นอันดับสาม ถือเป็นความเชื่อมั่นในระดับหนึ่ง ที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้ จึงเชื่อว่ามีโอกาสสูงที่จะจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ
แก้รัฐธรรมนูญ เป็นวาระด่วน
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ถือเป็นวาระเร่งด่วน การประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก จะมีมติให้ทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งกระบวนการทำประชามติจะใช้เวลาพอสมควร หลังจากนั้น จะมีการจัดตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มายกร่างแก้ไข และบวกเวลาการพิจารณาในสภาฯ น่าจะไม่ต่ำกว่า 2 ปี หรือ 2 ปีขึ้นไป
ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกว่า ในเกือบทุกวันของสัปดาห์นี้ จะเห็นภาพการจับมือตั้งรัฐบาลของพรรคการเมืองเพิ่มขึ้น และไม่ได้ปิดโอกาสเสียงจากรายบุคคล ที่จะสนับสนุนนายกฯ พรรคเพื่อไทย ขอให้มั่นใจว่า จะมีเสียง ส.ส.สนับสนุนเกินครึ่ง ส่วนการขอเสียง ส.ว.อยู่ระหว่างการดำเนินการ และมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีทุกส่วน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: