กรุงเทพฯ – คาร์ม็อบ บุก ‘ภูมิใจไทย-เพื่อไทย’ ต้านร่วมตั้งรัฐบาล ชี้ ไม่เห็นหัวประชาชน ทำกัญชาพันลำแต่ใช้ ‘ขี้แมว’ ห่อกระดาษแทน จุดไฟ ปาเข้าไปหน้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ก่อนปากาวดักหนู สาดสี ใส่ป้ายพรรค ก่อนไปคืนของเสื้อแดง กินต้มเล้ง หน้าพรรคเพื่อไทย
วันที่ 13 สิงหาคม 2566 ผู้ชุมนุมคาร์ม็อบ นำโดย กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ รวมตัวกันที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิต เพื่อจัดกิจกรรรมเคลื่อนไหว หัวข้อ ‘เราจะไปไล่ หนูท่อ! หมอเก๊! พ่อค้ากัญชาเถื่อน! แล้วไปดัดสันหลังเพื่อนรว๊ากส์ ที่หักเหลี่ยมกันหน้าด้าน ๆ’ แสดงการคัดค้าน ที่่ทั้งสองพรรคจับมือข้ามขั้วจัดตั้งรัฐบาล
นายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือ เก็ท แกนนำกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ เปิดเผยว่า กิจกรรมนี้ต้องการสื่อไปถึงให้พรรคการเมืองที่มาจากเสียงประชาชน ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ที่มาจับมือกัน ว่า พวกเราไม่ไว้ใจ และเสียความรู้สึกที่มาโกหกประชาชน ไม่เห็นหัวประชาชน บอกจะไม่จับมือกับ 2 ลุงแน่ ๆ เพราะโดนทำรัฐประหารมาถึง 2 ครั้ง แต่วันนี้ก็ยังมีท่าทีจะจับมือกับเขาอีก ไม่เห็นหัวประชาชน ไม่เห็นหัวเพื่อนร่วมพรรคที่สู้มาด้วยกัน ตามที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่า เป็นเรื่องเทคนิคเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียง หรือการบริหารจัดโควิดที่ล้มเหลวของพรรคภูมิใจไทย
ในระหว่างการจัดกิจกรรม จึงจะมีการปราศรัย เพื่อแสดงหลักฐานให้เห็นชัด ๆ ว่า ไม่เห็นด้วย และจะออกแบบการชุมนุมใหม่ ๆ ขึ้นเรื่อย ๆ ที่ไม่ใช่เป็นการยกระดับการชุมนุม แต่ต้องการสื่อสารไปยังสังคมให้เข้าใจมากกว่า
เวลาประมาณ 14.40 น.คาร์ม็อบเริ่มเคลื่อนขบวน ที่นำโดย รถจักรยาน ตามด้วย รถจักรยานยนต์ รถโมบายล์เครื่องขยายเสียง และรถยนต์ปิดท้าย ออกจากบีทีเอส สถานีหมอชิต มุ่งหน้าสู่พรรคภูมิใจไทย ถนนพหลโยธิน โดยไปถึงเวลาประมาณ 15.00 น. แต่ทางพรรคได้ปิดประตูทางเข้า-ออก ไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมบุกรุกเข้าไป โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำการอยู่ด้านใน และมีกำลังตำรวจ สน.บางเขน ท้องที่ คอยดูลรักษาความเรียบร้อย และเตือนเรื่องกรอบกฎหมายให้ผู้ชุมนุมทราบเป็นระยะ
กลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชน จึงจัดกิจกรรม บริเวณหน้าพรรคภูมิใจไทย ด้วยการชูป้ายข้อความต่าง ๆ พร้อมปราศรัยโจมตี การจับขั้วตั้งรัฐบาลของทั้ง 2 พรรค นโยบายการบริหารงานที่ผ่านมา ของพรรคภูมิใจไทย ทั้งการแก้ปัญหาโควิด กัญชา เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ นำมูลแมวแห้งมาห่อกระดาษ แล้วพันลำมวนเป็นกัญชาจำลอง แล้วจุดไฟเผา ต่อต้านนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย และเป็นการไล่หนู โยนผ่านประตูเข้าไปในพรรคภูมิใจไทย พร้อมโปรยใบปลิวต่าง ๆ ก่อนนำสีมาสาด และนำกาวดักหนู มาปาแปะที่ป้ายพรรคภูมิใจไทยด้วย
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการทำกิจกรรม ตัวแทนกลุ่มทะลุแก๊ส ได้ปราศรัยว่า อยากฝากไปยังพรรคเพื่อไทยว่า หากยังจับมือกับพรรคภูมิใจไทย หรือหากยังมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอยู่ จะได้เจอกันที่ดินแดงอีกแน่นอน
ขณะที่ ตำรวจ สน.บางเขน เจ้าของท้องที่ ที่มารักษาความสงบเรียบร้อย ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ขอให้ผู้ชุมนุมดำเนินกิจกรรมด้วยความสงบเรียบร้อย หากทำอะไรที่ฝ่าฝืนกฎหมาย จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายในภายหลัง
ต่อมา แกนนำกลุ่มโมกหลวง ได้ประกาศยุติกิจกรรมที่พรรคภูมิใจไทย และเคลื่อนขบวนต่อไปยังพรรคเพื่อไทย ถนนเพชรบุรี เพื่อทำกิจกรรมต่อไป
คาร์ม็อบ บุกพรรคเพื่อไทย คืนสัญญลักษณ์เสื้อแดง นั่งกินต้มเล้ง คืนกระดูกทิ้งไว้จะได้มีกระดูกสันหลัง 
เวลาประมาณ 16.45 น. คาร์ม็อบ กลุ่มโมกหลวงริมน้ำและอดีตกลุ่มคนเสื้อแดง เคลื่อนขบวนถึงพรรคเพื่อไทย นำเสื้อสีแดง สติกเกอร์ แก้วน้ำ ผ้าพันคอ และรูปนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปวางไว้ที่หน้าพรรค และพยายามจุดไฟเผา
อย่างไรก็ตาม เกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อผู้ชุมนุมพยายามจะเข้าไปด้านในพรรค แต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พยายามกันและเจรจาว่า พรรคเพื่อไทยเป็นสถานที่ส่วนบุคคล จนเกิดการปะทะกัน
นายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง แกนนำกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ได้ปลุกระดมมวลชน ให้เดินเข้าไปในพรรค และทำกิจกรรมแสดงเชิงสัญลักษณ์ ด้วยการเทปุ๋ยกาบมะพร้าวบนพื้นหน้าประตูทางเข้าพรรค โดยเปรียบดินเป็นธุลีดิน ที่สะท้อนถึงรากหญ้าของประชาชน และเพื่อไทยได้ปลูกต้นกล้าประชาธิปไตยและจัดตั้งประชาชนขึ้นมา พ่อแม่ของพวกตนเองก็เป็นแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และเป็นโหวตเตอร์ที่เลือกพรรคเพื่อไทยมา ไม่ใช่ พรรคก้าวไกล
แต่พรรคเพื่อไทยกลับโกหก และทำลายความหวังของประชาชน เคยบอกว่าต่อต้านลุง จะไม่ร่วมมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติและพลังประชารัฐ เพราะทำรัฐประหารมา แต่ตอนนี้ กลับมาจับมือกับพรรค 2 ลุง
จากนั้น กลุ่มมวลชนพากันกินต้มเล้ง แสดงสัญลักษณ์ว่า พรรคเพื่อไทยจะได้มีกระดูกสันหลัง พร้อมแจกให้ รปภ.ของพรรคด้วย หลังกินเสร็จ ได้นำกระดูกวางไว้ที่พรรคด้วย
ก่อนจบการจัดกิจกรรม ในเวลา 18.00 น. และประกาศว่า จะไปพบกับพรรคการเมืองที่ตระบัดสัตย์กับประชาชน และหลังจากนี้ จะเดินทางไปสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุม ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
