กรุงเทพฯ – นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เผย นช.ทักษิณ มีอาการเครียดและอ่อนเพลีย ห่วงเรื่องหัวใจ แต่เชื่อมือแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ จะไม่ย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน
วันที่ 29 สิงหาคม 2566 ที่พรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เปิดเผยถึงอาการของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ตอนนี้ นช.ทักษิณ มีอาการอ่อนเพลีย ตั้งแต่วันที่เดินทางถึงเมืองไทย เห็นนายทักษิณ ไม่สดชื่นเท่าเดิม และมีอาการเครียดพอสมควร ซึ่งในวันนั้น ครอบครัวได้คุยกัน ก็เห็นว่ามีอาการเครียด และตกกลางคืนก็ได้ทราบพร้อมกับสื่อมวลชน ว่า มีการนำตัวไปโรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากมีอาการเครียดและอ่อนเพลีย
ส่วนที่ทนายความ ระบุว่า อาการยังน่าเป็นห่วง นางสาวแพทองธาร เปิดเผยว่า ช่วงปี 2020 (2563) นายทักษิณเป็นโควิด รุ่นแรก ๆ ก่อนมียารักษา ต้องเข้าไอซียู 9 วัน อยู่โรงพยาบาล 1 เดือน ออกมาน้ำหนักลดไป 10 กิโลกรัม เพราะฉะนั้น ที่ปอดจึงยังมีร่องรอยอยู่ แต่นายทักษิณพยายามออกกำลังกาย ก็กลับมาได้มาแล้ว แต่แน่นอนว่า คนอายุ 74 ปี บวกกับความเครียดด้วย
ถามว่า สภาพร่างกายและจิตใจของ นายทักษิณ อยู่ในระดับใด นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า “คุณพ่อดีใจที่เจออิ๊งค์ คุณพ่อดีใจมาก คุณพ่อก็คือสู้ ยังสู้ และรู้สึกว่าท่านมีความเปลี่ยนแปลงเยอะ ซึ่งไม่ต้องคนอายุ 74 ปีก็ได้ แต่ใครก็ตามที่เจอสถานการณ์ที่ต้องเปลี่ยนที่อยู่ ไม่ต้องเป็นราชทัณฑ์ก็ได้ ไม่ต้องเป็นโรงพยาบาลก็ได้ แค่เปลี่ยนไปเรียนเมืองนอกหรืออะไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดความรู้สึกกับทุกๆ คน คุณพ่อก็เช่นกัน ก็ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่เป็นห่วงท่าน ตอนนี้ทีมคุณหมอเองก็เก่งมากๆ แล้วก็มอนิเตอร์ทุกอย่างแล้ว อีกทั้งประวัติที่ไปอยู่เมืองนอกมา การรักษาตัวได้ให้คุณหมอไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหัวใจ เรื่องของปอดหรือว่าประวัติที่ผ่านมา 10 กว่าปี ว่าเป็นอะไรมาบ้าง ผ่าอะไรบ้าง มอบให้กับทางโรงพยาบาลหมดแล้ว” ลูกสาวคนเล็กของ นายทักษิณ กล่าว
ส่วนเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษนั้น นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ขอให้เป็นดุลพินิจของ นายทักษิณ ทั้งหมดว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งก็ไม่ได้ติดขัดอะไร แต่จะทำเมื่อไหร่ อย่างไร เป็นเรื่องของนายทักษิณ จะตัดสินใจดำเนินการตามกระบวนการด้วยตัวเอง สำหรับกระแสข่าวจะย้ายไปรักษายังโรงพยาบาลเอกชนยืนยันว่าไม่มี เพราะคุณหมอโรงพยาบาลตำรวจเก่ง ครอบครัวไม่ได้ขอหรือจะย้ายไปโรงพยาบาลเอกชน ยังอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ
นางสาวแพทองธาร กล่าวอีกว่า ได้ถามแพทย์ถึงการประเมิน ว่าต้องใช้เวลารักษาอีกนานหรือไม่ แต่ยังไม่ทราบ เพราะยังมีอีกหลายปัจจัย หากเกิดเหตุด่วนขึ้นมาก็มีความจำเป็น เพราะอายุมาก อย่างไรก็ตาม ไม่ได้เสียใจที่ถูกสังคมครหาเรื่องอภิสิทธิ์ชน แต่เป็นห่วงนายทักษิณมากกว่า และเป็นห่วงคนที่เป็นห่วงท่านด้วย แต่ก็ดีใจที่ได้ไปพบเมื่อวานนี้ มีเหนื่อยเพลียบ้าง
ทั้งนี้ ห่วงเรื่องหัวใจ เพราะปัญหาเรื่องปอด แม้จะเป็นพื้นฐานเดิมที่เป็นอยู่ หากเป็นอะไรขึ้นมา ก็ยังไม่เร็วเท่าหัวใจ แต่ในส่วนของข้อมูลทางการแพทย์ ขอให้สอบถามทางแพทย์ ซึ่งจะมีรายละเอียด
