กรุงเทพฯ – นิด้า ยืนยัน ยังคงใช้สิทธิในที่ดินสีคิ้ว สอนปริญญาโท-เอก และพัฒนาผู้นำภาครัฐและเอกชน เพื่อประโยชน์ของชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน
รศ.ดร.อัศวิน เนตรโพธิ์แก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์การ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ชี้แจงเรื่องการใช้ที่ดิน ณ บ้านคลองตะแบก หมู่ที่ 5 ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ว่า กระทรวงมหาดไทยได้อนุมัติ ให้นิด้าเปิดทำการเรียนการสอนระดับปริญญาโท-เอก และฝึกอบรมผู้นำ ผู้บริหารท้องถิ่น ทั้งภาครัฐและเอกชน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มาตั้งแต่ พ.ศ.2536 มีการก่อสร้างอาคารเรียน 2 หลัง จากการระดมเงินทุนโดย หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร (สมเด็จพระญาณวชิโรดม) งบประมาณแผ่นดิน และเงินรายได้ของนิด้า
เปิดทำการสอนสาขารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต และสาขาการจัดการภาครัฐและภาคเอกชนมหาบัณฑิต ตั้งแต่ปี 2538 ต่อเนื่องจนถึงปี 2563 อีกทั้ง ยังเปิดอบรมหลักสูตรสำหรับผู้นำผู้บริหารท้องถิ่น ตามวัตถุประสงค์ของการใช้พื้นที่มาโดยตลอด
ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์การนิด้า เปิดเผยอีกว่า ตั้งแต่ปี 2563 ผู้บริหารนิด้า มีนโยบายอำนวยความสะดวกแก่ผู้เรียน จึงย้ายไปเปิดการเรียนการสอน ที่โรงเรียนสุรนารีวิทยา 2 อำเภอเมืองนครราชสีมา ขณะเดียวกัน ได้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรง นิด้าจึงอนุญาตให้ใช้พื้นที่ ศูนย์การศึกษาสีคิ้วเป็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยง จนถึงปี 2565
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นิด้าไม่ได้ละทิ้งศูนย์การศึกษาสีคิ้ว โดยจัดสรรงบประมาณจ้างบุคลากรและดูแลบำรุงรักษาพื้นที่มาโดยตลอด
“นิด้า ยังคงใช้พื้นที่ศูนย์การศึกษาสีคิ้วในการจัดการเรียนการสอนเช่นเดิม โดยมีแผนพัฒนาการศึกษา การพัฒนาผู้นำและชุมชนสีคิ้วอย่างยั่งยืน เช่น เปิดหลักสูตรปริญญาโท สาขาการจัดการการท่องเที่ยว การพัฒนาสังคม และการจัดการสิ่งแวดล้อม รวมถึงโครงการอบรมต่าง ๆ เช่น โครงการอบรมชาวบ้านปลูกหญ้าแฝกเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน โครงการอบรมผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน สร้างรายได้อย่างยั่งยืน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและช่องว่าง ระหว่างโลกธุรกิจกับประโยชน์ทางสังคม โดยร่วมมือกับศูนย์ยูนุส (YUNUS Center) เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน อีกทั้งมีโครงการการอบรมการทำเกษตรกรรมแบบ smart farming และโครงการอบรมเพิ่มศักยภาพการดูแลตนเองและครอบครัวของผู้สูงอายุ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต เป็นต้น” รศ.ดร.อัศวิน กล่าว
