นครปฐม – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เรียกประชุมติดตามความคืบหน้า และเร่งรัดจับกุมมือยิงสารวัตรทางหลวง
วันที่ 7 กันยายน 2566 ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล (บิ๊กโจ๊ก) รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อติดตามความคืบหน้า คดียิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรสอบสวน ตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ถูกยิงเสียชีวิต และได้เรียกประชุม ตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจกองปราบปราม เพื่อเร่งรัดการจับกุมมือยิงที่อยู่ระหว่างการหลบหนี คือ นายธนัญชัย หรือหน่อง หมั่นมาก อายุ 45 ปี ภูมิลำเนา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงและทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุว่า จะต้องเก็บดีเอ็นเอทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ รวมทั้งของตำรวจทั้ง 21 นาย และชาวบ้านทุกคนที่ไปร่วมงาน มาเปรียบเทียบ โดยเฉพาะบริเวณที่มีการทำลายกล้องและนำเซิร์ฟเวอร์ออกไป จากการสอบปากคำ ทราบว่าคนที่สั่งให้ทำลายหลักฐาน คือ กำนันนก
อย่างไรก็ตาม วันนี้ ได้แจ้งข้อหากำนันนก เป็นผู้สนับสนุน และจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ฐานร่วมกันฆ่า หากพบหลักฐานเพิ่มเติม แม้กำนันให้ข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ แต่ตำรวจสามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ โดยสอบจากพยานบุคคลและร่องรอยการใช้อาวุธปืน การให้การของพยานที่เกี่ยวข้อง จากการค้นบ้าน พบอาวุธปืนของกำนัน จำนวน 10 กระบอก
ส่วนนายหน่องมือปืน ยังไม่ติดต่อมอบตัว ตำรวจเร่งตามตัวอยู่ คาดว่าหลบหนีไปไม่ไกล ค้นบ้านพบปืน 1 กระบอก แต่ไม่ใช่กระบอกที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้น เป็นปืนกล็อก และนายหน่องพกติดตัวไปด้วย จะต้องตรวจสอบโทรศัพท์ของทุกคน เพื่อหาความเชื่อมโยงว่าติดต่อกับใครบ้าง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยอีกว่า คดีนี้ไม่ซับซ้อน แต่ต้องสอบให้ครบทุกด้าน รวมทั้งจะขยายเครือข่ายของกำนันนก การตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องเพื่อหาความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินด้วย จะต้องปฏิบัติการชุดใหญ่ เพราะ จ.นครปฐม มีชื่อเรื่องนี้มานาน ต้องปราบ และทำให้ชาวบ้านอุ่นใจ
ส่วนที่กำนันนก รู้จักกับตำรวจทางหลวงนั้น ทราบว่ากำนันมีธุรกิจก่อสร้าง อาจมีการขนหิน ดิน ทราย ที่ต้องผ่านเส้นทางทางหลวง
ขณะเดียวกัน วันนี้ ตำรวจนำหลักฐานในที่เกิดเหตุ ประกอบด้วย โต๊ะ เก้าอี้ ผ้าปูโต๊ะและแก้วน้ำ ไปตรวจสอบพยานหลักฐานประกอบในสำนวนคดี
‘บิ๊กต่อ’ ลั่น ไม่ให้อิทธิพล มากดดัน
เมื่อช่วงเช้า ล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล (บิ๊กต่อ) รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อีกคน ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามคดีเช่นกัน โดยระบุว่า ถือเป็นคดีอุกอาจมาก เพราะเป็นการยิงที่โหดเหี้ยม ขอให้ชัดเจนว่าไม่ต้องกลัวคำว่า ‘อิทธิพล’ มากดดัน ตอนนี้ตำรวจได้กดดันติดตามตัวคนร้ายอย่างใกล้ชิด แต่จะได้ตัวหรืออยู่ที่ไหนขอไม่บอก แต่แน่ชัดว่าสาเหต คือ ความขัดแย้งเรื่องการขอวิ่งเต้นโยกย้ายตำรวจ ซึ่งผู้ตายเป็นคนตรง จึงทำให้เกิดความไม่พอใจ และเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี จากการสอบถามตำรวจที่ไปร่วมงานเลี้ยงด้วย ก็ไม่มีใครพกปืน จึงไม่มีการยิงต่อสู้กัน และคนร้ายได้หลบหนีไป
ส่วนการไล่ล่าคนร้ายนั้น ได้แจ้งผู้บัญชาการสอบสวนกลางแล้วว่า หากการสอบสวนไปได้ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ชุดคอมมานโดลงมา พร้อมฝากสื่อมวลชนและสื่อโซเชียล ขออย่ากดดันเรื่องการวิสามัญคนร้าย เพราะมีกฎหมายควบคุมอยู่ การทำงานของตำรวจจะต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย
สำหรับ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก นั้น เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ในเขตเมืองนครปฐม เป็นลูกชายของอดีตกำนันคนดังในพื้นที่ มีฐานะดี เป็นที่รู้จักของคนในแวดวงธุรกิจและการเมืองใน จ.นครปฐม
