กรุงเทพฯ – พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ว่าที่ ผบ.ตร. แจง จับยาเสพติดล็อตใหญ่ กลางเมืองนครปฐม ตามมา 2 ปี ปฏิเสธจัดฉาก ขอไม่คุยเรื่องตำแหน่ง ชี้ อาชญากรรมเกิดได้ทุกเวลา ขณะที่รัฐมนตรียุติธรรม ยืนยัน ไม่ตัดตอน แต่ยึดหลักนิติธรรม
วันที่ 28 กันยายน 2566 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ชี้แจงถึงการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาเสพติดล็อตใหญ่ กลางเมืองนครปฐม แทบจะทันที หลังจากได้รับการแต่งตั้งเป็น ว่าที่ ผบ.ตร. โดยยืนยันว่า การจับกุมครั้งนี้ ไม่ใช่การจัดฉาก และไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่อาชญากรรมเกิดขึ้นได้ทุกเวลาเมื่อมีโอกาส ตำรวจมีหน้าที่ตัดโอกาสการกระทำความผิด คนร้ายไม่ได้มาบอกว่า จะขนยาวันไหน เมื่อคืนนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โทรศัพท์มาแจ้งว่ามีเหตุเกิดขึ้น จึงได้แจ้งไปยัง พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.ที่รับผิดชอบงานยาเสพติด แต่ พล.ต.อ.ชินภัทร ติดภารกิจ จึงมอบหมายให้ตนเองไปดูที่เกิดเหตุแทน
สำหรับยาเสพติดที่จับกุมและตรวจยึดมาแล้ว ไปไหน เกิดการหมุนเวียนหรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า เป็นนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว ที่จะต้องทำลายขบวนการยาเสพติดทั้งหมด ทุกอย่างต้องทิ้งร่องรอย เส้นทางการเงินจะเชื่อมโยงกันทั้งหมด ถึงใครเอาคนนั้น ขอให้รอตนเองทำงานก่อน
เมื่อถามถึงนโยบายในการดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องตำแหน่งขอยังไม่ตอบ ยังไม่อยากพูด จนกว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ตอนนี้ตนเองยังเป็นแค่ รอง ผบ.ตร. อย่างไรก็ตาม เรื่องยาเสพติด เป็นนโยบายหลักที่รัฐบาลกำชับอยู่แล้ว นอกจากนี้ จะมีเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมไปถึงเรื่องการท่องเที่ยวด้วย
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยังขออย่าเชื่อมโยงเรื่องนี้ถึงกำนันนก แม้การจับกุมเกิดขึ้นใน จ.นครปฐม พร้อมย้ำว่า ตนเองดูเรื่องงานป้องกันปราบปราม เรื่องยาเสพติดถือเป็นส่วนหนึ่งอยู่แล้ว ที่ผ่านมา ทำเรื่องชุมชนยั่งยืนมานานแล้ว โดยเข้าไปแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน ไม่ได้เพิ่งมาทำตอนที่มีผลการคัดเลือก ผบ.ตร. และ 191 ก็แกะรอยกรณีนี้มานานกว่า 2 ปี
จุดที่เข้าไปตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้ เป็นจุดพักยาเสพติดที่กลุ่มผู้ต้องหาได้ขนย้ายมาจากเซฟเฮาส์หลายแห่งนำมารวมกัน เพื่อหลบหนีการตรวจค้นของตำรวจ เนื่องจาก สภ.เมืองนครปฐม ได้ตั้งด่านอาชญากรรม และจับกุมผู้ต้องหา คือ นายวราวุธ อินคล้าย อายุ 36 ปี ฐานมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง อีกทั้งยังมีข้อหาสมคบเพื่อการฟอกเงินของ บช.ปส. เมื่อกลุ่มผู้ต้องหาทราบ จึงเกิดความกลัว ขนย้ายยาเสพติดมารวมกันที่นี่ ทำให้สามารถตรวจยึดของกลางได้ปริมาณมาก และยังพบเฮโรอีน ซึ่งเป็นยาเสพติดที่ไม่ค่อยพบในประเทศไทย เนื่องจากต้นทุนสูง นอกจากนี้ ยังมียาเสพติดชนิดที่ผ่านการดัดแปลงมาแล้ว เพื่อใช้สำหรับเสพในสถานบันเทิงด้วย เช่น แฮปปี้วอเตอร์ และไฟว์ไฟว์
เมื่อถามว่า การจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ครั้งนี้ จะนำไปสู่ความชอบธรรมในการตัดตอน เหมือนยุครัฐบาลทักษิณ และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงว่า จะยึดหลักนิติธรรม คือ ดำเนินการตามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ต้องคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนด้วย ไม่ใช่การตัดตอน และกฎหมายที่มีอยู่ (เรื่องยึดทรัพย์) แรงกว่าการตัดตอน เพราะผู้ค้ายาเสพติดต้องการเพียงเงินและอำนาจ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: