กรุงเทพฯ – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ห่วงความปลอดภัยคนไทยในอิสราเอล ประสานเตรียมอพยพทันทีที่ทำได้ พร้อมประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ เผย สถานการณ์ยังอยู่ในภาวะสงคราม 2 จุด แต่ไม่ใช่พื้นที่ที่คนไทยถูกจับเป็นตัวประกัน
วันที่ 8 ตุลาคม 2566 ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายปานปรีย์ พหิทรานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ความรุนแรงในอิสราเอล ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ว่า
รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ และได้สั่งการให้เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล รายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ มีแรงงานไทยได้รับผลกระทบ บาดเจ็บ 8 คน รอการช่วยเหลือจากกองทัพ 3 คน เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลโซโลกาแล้ว 5 คน เสียชีวิต 1 คน และถูกจับไปเป็นตัวประกัน 11 คน
สถานทูตพยายามติดต่อกับทางการอิสราเอลเพื่อประสานข้อมูล แต่ฝ่ายอิสราเอลยังเข้าพื้นที่ไม่ได้ จึงยังไม่สามารถยืนยันตัวเลขอย่างเป็นทางการได้ พร้อมขอความกรุณาเรื่องการเผยแพร่ข้อมูล เพราะจะส่งผลกระทบต่อญาติ และกระทรวงฯ ประสงค์จะติดต่อกับญาติโดยตรง
“ตอนนี้อิสราเอลประกาศว่าอยู่ในภาวะสงคราม สั่งห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถาน ทุกคนต้องลงหลุมหลบภัยเป็นระยะ ซึ่งเป็นแนวทางที่คนอิสราเอลและคนไทยในอิสราเอล ได้รับการอบรมและตระหนักรู้” นายปานปรีย์ กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กองทัพอากาศ เตรียมความพร้อมอพยพคนไทยจากอิสราเอล เมื่อสถานการณ์เอื้ออำนวยโดยเร็วที่สุด แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าไปได้ และประเทศอื่นก็ยังไม่ได้อพยพเช่นกัน รอคำสั่งว่ามีความพร้อมเมื่อไหร่ แต่ขณะนี้น่านฟ้ายังปิดอยู่
บ่ายวันนี้ ได้ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประสานเตรียมการได้อย่างราบรื่นเรียบร้อย ขอให้ไว้วางใจ เพราะรัฐบาลติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยประสานงานกับทุกฝ่าย รวมทั้งเอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทยด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า รัฐบาลไทยไม่เห็นด้วยและขอประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ รวมถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนไทยที่เป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถรับได้ แต่ไม่ได้ประณามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยกระทรวงต่างประเทศ นายกรัฐมนตรี และตนเอง ได้แสดงท่าทีในเรื่องนี้ไปแล้ว ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ยุติความรุนแรงและปล่อยตัวพลเรือนผู้บริสุทธิ์ในทันที
พร้อมย้ำว่า รัฐบาลเป็นห่วงความปลอดภัยของคนไทย และต้องดูแล ไม่ว่าจะเป็นผู้เสียชีวิตไปแล้ว เรื่องการเยียวยา และผู้บาดเจ็บ รวมถึงผู้ที่ถูกจับตัวไป จะหาช่องทางอย่างเต็มที่ ในการปล่อยตัว
ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บ ทางสถานทูตได้เข้าไปดูแลอยู่ ดังนั้นขณะนี้ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศค่อนข้างจะมีความพร้อมและทางกองทัพอากาศ ก็ได้ประสานกันตั้งแต่เริ่ม เหตุการณ์ ทางกองทัพอากาศให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ขณะนี้รอคำสั่งว่ามีความพร้อมเมื่อไหร่ ที่จะต้องมีไปรับคนไทยกลับมา แต่ขณะนี้น่านฟ้าก็ยังปิดอยู่
นายปานปรีย์ ยังโทรศัพท์สายตรงถึง น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ โดยทูตไทย ระบุว่า ยังคงมีการสู้รบในพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตฉนวนกาซ่า และทางการอิสราเอลพยายามเคลียร์พื้นที่ โดยยึดได้ 2 ส่วนแล้ว แต่ทราบว่าไม่ใช่เขตที่แรงงานไทยถูกจับเป็นตัวประกัน
อย่างไรก็ตาม แรงงานที่ถูกจับนั้น ไม่ใช่มีเฉพาะแรงงานไทย แต่มีทั้งอิสราเอลและชาติอื่นด้วย ซึ่งสถานทูตกำลังประสานและให้การช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด โดยพยายามติดต่อฝ่ายแรงงาน แต่ติดต่อได้เฉพาะรายที่บาดเจ็บบางคน แต่ที่ถูกจับเป็นตัวประกันยังไม่สามารถติดต่อได้ เพราะยังเป็นพื้นที่ที่ถูกยึดครองอยู่ ต้องรออิสราเอลเข้าไปเคลียร์พื้นที่ก่อน
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด มีคนไทยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 1 คน รวมเป็น 2 คนแล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: