X

เปิด 2 แนวทาง รับคนไทยจากอิสราเอลกลับ 3 ชุดแรก

กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี สั่งการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่สถานทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ เพื่อช่วยเหลือ-ดูแลคนไทย พร้อมให้เจรจามิตรประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อช่วยผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกัน  

วันที่ 11 ตุลาคม 2566 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งการให้เพิ่มเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล ซึ่งรัฐบาลซึ่งไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการและเริ่มทำงาน ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรง โดยนายกรัฐมนตรี ชี้แจง ดังนี้

สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ดำเนินอยู่นั้น สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความปลอดภัยของคนไทย ซึ่งการเตรียมแผนอพยพคนไทย มีความคืบหน้าเพิ่มเติม 2 ทาง คือ

ทางแรก กลับโดยสายการบินพาณิชย์
ทางที่สอง กลับโดยเครื่องบินกองทัพอากาศไปรับ

แบ่งเป็น 3 ชุด

1.ชุดแรก ประมาณ 15 คน จะถึงไทย วันที่ 12 ต.ค.66 เป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและแรงงานที่อพยพจากพื้นที่เสี่ยงภัย
2.ชุดที่สอง ประมาณ 140 คน ด้วยเครื่องบินกองทัพอากาศ Airbus A340 ไปรับ ออกเดินทางจากไทย 14 ต.ค.66 และจะไปถึงกรุงเทลอาวีฟ ของอิสราเอล 15 ต.ค. เพื่อเตรียมพร้อมรับคนไทยกลับบ้านทันทีที่ได้รับอนุญาตจากทางการอิสราเอล
3.ชุดที่สาม ยีก 80 คน กลับด้วยเครื่องบินพาณิชย์ โดยจะถึงกรุงเทพฯ ในวันที่ 18 ต.ค.

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลพยายามอพยพคนไทยกลับให้เร็วที่สุด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ในส่วนผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกันนายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พูดคุยกับบรรดามิตรประเทศต่าง ๆ ตลอดจนองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง และขอให้ความมั่นใจว่า ได้ทำทุกทาง และจะพยายามอย่างสูงสุดเพื่อช่วยเหลือ โดยคำนึงถึงอิสรภาพของคนไทยที่ถูกจับตัวไปเป็นสำคัญที่สุด

นายกรัฐมนตรี ยังสั่งการให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปเสริม สนับสนุนข้าราชการ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ในภารกิจช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยด้วย

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ลักขณา สุริยงค์

ลักขณา สุริยงค์

ทำหน้าที่สื่อมวลชนมาเกือบ 30 ปี ทั้งงานสายข่าวและจัดรายการทีวี-วิทยุมานับไม่ถ้วน "ไม่เป็นกลาง แต่เป็นธรรม พร้อมนำเสนอความจริง"