กรุงเทพฯ – นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประกาศ จะไม่ทิ้ง DNA ของพรรคเพื่อไทย ‘ตาดูดาวเท้าติดดิน’ ทำนโยบายที่สัญญาไว้ให้เป็นจริง พร้อมจะนำพาพรรคกลับขึ้นสู่อันดับ 1 อีกครั้ง
วันที่ 27 ตุลาคม 2566 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แสดงวิสัยทัศน์ในการรับตำแหน่ง หัวหน้าพรรคเพื่อไทย โดยขอบคุณสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่มอบความไว้วางใจให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พรรคไทยผ่านอะไรมามาก และเป็นพรรคการเมืองที่ถูกกระทำมากที่สุดในประเทศไทย แต่ก็ประสบความสำเร็จมากที่สุด เติบโตมากับความเปลี่ยนแปลง ในเหตุการณ์ต่าง ๆ ทำให้เรียนรู้อะไรมามากมาย
นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวขอบคุณ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพ่อ และยกนายทักษิณ เป็นแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิต ภารกิจนี้เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่และสําคัญมาก โดยเฉพาะบริบทของการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในทุก ๆ วัน
การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ทำให้เราต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ทีมคณะบริหารของพรรคเพื่อไทยทีมใหม่นี้ จะต้องถอดบทเรียน ทบทวน เพื่อทำให้ดีขึ้น เพื่อที่จะนําพรรคเพื่อไทยให้กลับมายืนอยู่ในใจพี่น้องประชาชน ในฐานะพรรคการเมืองอันดับ 1 อีกครั้งอย่างยั่งยืน
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า ตลอดเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี แสดงให้เห็นว่า การตั้งรัฐบาลในวันนั้น คือ การตัดสินใจที่ดีที่สุด ผลงานที่เกิดขึ้นในระยะเวลาเพียง 2 เดือน สามารถสร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชนและประเทศอย่างมาก
และมั่นใจว่า 4 ปีนับจากนี้ ประเทศจะพัฒนาได้อีกมากเช่นกัน และเดินหน้ายกระดับความเป็นอยู่ประชาชน เหมือนเช่นตลอดเวลาที่ผ่านมา
“เราจะไม่ทิ้ง DNA เดิมของพรรคเพื่อไทย นั่นก็คือการทำนโยบายที่เราสัญญาไว้กับประชาชนให้เป็นจริงได้ เราจะทำความฝัน ให้เป็นความจริง เราจะทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้ เราจะลบทุกคําสบประมาท ด้วยผลงานที่ปฏิเสธไม่ได้ DNA นี้จะยังคงอยู่กับพรรคเพื่อไทยต่อไป และพัฒนาตามยุคตามสมัย” นางสาวแพทองธาร กล่าว
โดยจะมี 4 ข้อที่สำคัญ ที่คณะทีมผู้บริหารทีมใหม่ จะต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพรรคอย่างชัดเจน คือ
1.จะทำ Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบ นำข้อมูลทุกอย่างให้อยู่ในระบบดิจิทัล เพื่อที่ว่าไม่ว่าคณะเข้ามาทำงานอย่างไร ก็จะได้มีการต่อยอดและพัฒนาได้อย่างง่ายขึ้น ข้อมูลสมบูรณ์แบบมากขึ้น
2.จะสร้างองค์กรแนวราบ เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของทุกๆ คน ทำให้พรรคได้เกิดประสบการณ์ มีกระบวนการตัดสินใจที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อพี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้น
3.จะทำให้พรรคเพื่อไทยเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ Learning Organization ที่จะมีศูนย์ข้อมูล ศูนย์วิจัย เพื่อที่จะพัฒนานโยบาย ไปปรับใช้ตามยุคสมัยให้ทันท่วงที และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างเท่าทัน
4.จะสร้างเครือข่าย ‘ครอบครัวเพื่อไทย’ ให้แข็งแรงและมีในทุก ๆ พื้นที่ของประเทศไทย เพื่อรับฟังเสียงของประชาชนที่สะท้อนมา
“เราตายังคงดูดาว เท้ายังคงติดดิน ยืนหยัดอยู่ข้างประชาชนอย่างเข้มแข็ง มั่นคง เพราะพรรคเพื่อไทย หัวใจคือประชาชน” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวตอนท้าย
