‘กาตาร์-อิหร่าน’ รับช่วยตัวประกันชาวไทย เชื่อ จะเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ได้ปล่อยตัว

โดฮา – รองนายกฯ ปานปรีย์ ขอ กาตาร์และอิหร่าน ช่วยสนับสนุนให้มีการปล่อยตัวคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ทั้ง 2 รับจะช่วยดำเนินการเต็มที่ ชี้ คนไทยไม่มีความเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พบหารือกับ เชคมุฮัมมัด บิน อับดุรเราะฮ์มาน บิน ญาสซิม อาล ษานี นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 โดยมี ดร.มุฮัมมัด บิน อับดุลอะซีซ อาล คุลัยฟี รัฐมนตรีแห่งรัฐของกาตาร์ ร่วมหารือด้วย

ฝ่ายไทย ชื่นชมบทบาทนำและความพยายามอย่างแข็งขันของประเทศกาตาร์ ในการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม และการเป็นสื่อกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเป็นธรรมในตะวันออกกลาง และระหว่างประเทศต่อสถานการณ์ในอิสราเอล

ทั้ง 2 ฝ่ายสนับสนุนการเจรจา ซึ่งจะนำไปสู่ทางออกที่สันติอย่างจริงใจ และสร้างสรรค์ระหว่าง อิสราเอลกับปาเลสไตน์  อีกทั้งแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียชีวิตและความเสียหายต่อทรัพย์สิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พลเรือนที่บริสุทธิ์ ซึ่งรวมถึงแรงงานไทย ที่ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรในพื้นที่ด้วย

ฝ่ายไทย ขอรับการสนับสนุนจากกาตาร์ เพื่อช่วยให้มีการปล่อยตัวคนไทยและคนชาติอื่นที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จากสถานการณ์สู้รบในอิสราเอลเร็วที่สุด ซึ่งกาตาร์ยินดีและรับจะช่วยดำเนินการอย่างเต็มที่ โดยกาตาร์ยืนยันว่า คนไทยไม่มีความเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง และเห็นว่าจะเป็นตัวประกันต่างชาติกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับการปล่อยตัว แต่การสู้รบที่ยังดำรงอยู่นั้น เป็นอุปสรรคสำคัญของการดำเนินการ

ไทยและกาตาร์ ยังหารือความร่วมมือทวิภาคี โดยหวังให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงอย่างต่อเนื่อง และพร้อมเพิ่มพลวัตความสัมพันธ์ในทุกสาขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านพลังงาน ความมั่นคงทางอาหาร การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ และการค้าการลงทุน ตลอดจนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาค และประเด็นอื่นๆ ที่อยู่ในความสนใจร่วมกันด้วย

ต่อมา นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้พบหารือกับ ดร.ฮุซัยน์ อะมีร อับดุลลอฮิยอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ที่กรุงโดฮา ด้วย โดยนายปานปรีย์ แสดงความยินดีที่ได้พบกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย เยือนกาตาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน

ทั้งนี้ ฝ่ายไทยและอิหร่าน แสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลและฉนวนกาซา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลกระทบต่อพลเรือนผู้บริสุทธิ์

ฝ่ายไทยขอรับการสนับสนุนจากอิหร่าน ให้มีการปล่อยตัวคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ซึ่งฝ่ายอิหร่านรับจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มความสามารถ

ทั้ง 2 ฝ่าย ยังหารือเกี่ยวกับการขยายความร่วมมือทวิภาคี และการส่งเสริมความสัมพันธ์ในทุกมิติ ตลอดจนแลกเปลี่ยนมุมองเกี่ยวกับพัฒนาการในภูมิภาคด้วย