กรุงเทพฯ – ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่กฎกระทรวง ขยายเวลาเปิดสถานบริการถึงเวลา 04.00 น. ใน 5 จังหวัด/พื้นที่ และโรงแรมทั่วประเทศ มีผลบังคับใช้ทันที ตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป
วันที่ 15 ธันวาคม 2566 เว็บไซด์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่กฎกระทรวงกำหนดวัน-เวลา เปิด-ปิดของสถานบริการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2566 โดบมีสาระสำคัญ เป็นการขยายเวลาให้สถานบริการใน 5 จังหวัด/พื้นที่ ประกอบด้วย สถานบริการในท้องที่กรุงเทพมหานคร, จังหวัดภูเก็ต, จังหวัดชลบุรี, จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมถึงสถานบริการที่ตั้งที่อยู่ในสถานที่ตั้งโรงแรม ตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมทั่วประเทศ ให้เปิดบริการได้ถึงเวลา 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้นได้
โดยเริ่มผลบังคับทันที ตั้งแต่วันนี้ (15 ธ.ค.66) เป็นต้นไป
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า กฎกระทรวงดังกล่าว เป็นไปตามกรอบเวลาเริ่มต้นที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้นโยบายไว้ เพื่อให้ระยะเวลาเปิดบริการที่ยาวขึ้น ช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซันและสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน
ข่าวน่าสนใจ:
- จังหวัดสกลนคร พัฒนาศักยภาพบุคลากร ภาคีเครือข่าย เฝ้าระวัง ดูแลรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติด
- ปิดตำนานนักเขียน "ตรี อภิรุม" ศิลปินแห่งชาติฯ เจ้าของผลงาน "นาคี"
- ตรัง คู่ซี้ พระ-ฆราวาส เมาแอ๋ด่าทอชาวบ้านใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อาละวาดอ้างมีปืน ทำชาวบ้านแตกตื่น ตร.หิ้วปีกบังคับสึก กร่างไม่เลิกบอกรู้จักพระผู้ใหญ่
- ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีฯ จัดกิจกรรม"วันกิมจิ"เผยแพร่การทำกิมจิ ผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 700 คน
นอกจากนี้ เฉพาะในคืนส่งท้ายปีเก่า (31 ธ.ค.66) ตามกฎกระทรวงฉบับนี้ จะขยายเวลาให้สถานบริการในทุกท้องที่ทั่วประเทศ สามารถเปิดบริการไปจนถึงเวลา 06.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันปีใหม่ (1 ม.ค.) ได้ ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับกฎกระทรวงฯ ฉบับที่1 ซึ่งออกมาตั้งแต่ปี 2547 เพื่อส่งเสริมบรรยากาศให้ประชาชนได้เฉลิมฉลองในวันขึ้นปีใหม่
โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า เพื่อให้การขยายระยะเวลาการเปิดของสถานบริการในพื้นที่ท่องเที่ยว เป็นไปด้วยความเรียบร้อย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทย ให้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ดูแลให้การขยายเวลาเปิดของสถานบริการให้เป็นไปตามกฎหมาย อาทิ สถานบริการต้องไม่ละเลยให้มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด การพกอาวุธเข้าไปในพื้นที่ ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุความรุนแรง การตรวจสอบป้องกันไม่ใช้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าในพื้นที่สถานบริการ ตลอดจนวางแนวทางเพื่อกวดขันไม่ให้มีการเมาแล้วขับ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: