กรุงเทพฯ – คณะรัฐมนตรี เห็นชอบลดราคาพลังงาน ตรึงราคาน้ำดีเซล ไม่เกิน 30 บาท ก๊าซแอลพีจี 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม อีก 3 เดือน พร้อมตรึงค่าไฟฟ้างวด มกราคม-เมษายน 2567 ครัวเรือนที่ใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน
วันที่ 19 ธันวาคม 2566 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ มีมติเห็นชอบลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน เพื่อลดความเดือดร้อนจากราคาพลังงาน ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ โดย
ตรึงราคาน้ำมันดีเซล ไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 3 เดือน (มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม 2567) โดยกระทรวงพลังงานจะหารือกับกระทรวงการคลัง ในการใช้กลไกภาษีสรรพสามิตและกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
ตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม (ที่ใช้ในครัวเรือน) เป็นระยะเวลา 3 เดือน (มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม–31 มีนาคม 2567) เช่นกัน โดยบริหารผ่านกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
ส่วนค่าไฟฟ้า งวดเดือนมกราคม-เมษายน 2567 สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ประมาณ 17 ล้านครัวเรือน จะตรึงในอัตราเดิม คือ 3.99 บาทต่อหน่วย ส่วนผู้ใช้ไฟเกิน 300 หน่วยต่อเดือน จากเดิมกำหนดอยู่ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย จะเป็นไม่เกิน 4.20 บาทต่อหน่วย แต่จะปรับลดลงในอัตราเท่าใดนั้น จะขอรอพิจารณาราคาก๊าซในวันที่ 1 ม.ค.2567 ก่อน
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ครม.มีมติให้ปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ ตามข้อเสนอของ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ. ) และตามมติ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566 โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับภาระเงินคงค้างสะสม (AF) สำหรับงวดเดือนมกราคม-เมษายน 2567 แทนประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าไปพลางก่อน ส่วนบริษัท ปตท.จำ (มหาชน) จะทบทวนสมมติฐานปริมาณและราคาก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในการคำนวณอัตราค่าไฟฟ้า ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งจะมีส่วนให้ลดภาระค่าไฟฟ้าได้
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ราคาก๊าซธรรมชาตินำเข้าจากต่างประเทศอยู่ในระดับสูง จึงส่งผลกระทบมาเป็นต้นทุนค่าไฟฟ้า การลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน วันนี้ เป็นเพียงมาตรการระยะสั้นเท่านั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างรื้อกฎหมาย กฎระเบียบต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ จะไม่มีเสียงครหาว่า กระทรวงพลังงานเอื้อกลุ่มทุนพลังงาน
