กรุงเทพฯ – ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 ต่อ 177 งดออกเสียง 4 เสียง รับหลักการ ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วาระแรก ด้านนายกรัฐมนตรี ขอบคุณสมาชิก ยืนยัน ใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ
วันที่ 5 มกราคม 2567 เวลา 20.10 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวสรุปปิดท้าย การประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท
ขอบคุณประธานและสมาชิกผู้ทรงเกียรติ ที่ร่วมกันพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2567 ที่รัฐบาลเสนอ แม้จะถูกจัดทำภายในเวลาที่เร่งด่วน มีงบประจำ งบผูกพัน ที่รัฐบาลจะต้องดูแลอย่างเป็นธรรมและมีวงเงินที่จำกัด แต่รัฐบาลจะยังคงให้ความสำคัญกับการมุ่งทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น ผ่านการดำเนินนโยบายที่ครอบคลุม ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ด้วยโยบายระยะสั้นและระยะยาว เป็นงบประมาณที่ 4 เพิ่ม 1 ลด ดังนี้
1.มีการจัดงบประมาณเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
2.เพิ่มเงินลงทุนเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
3.เงินคงคลังเพิ่มขึ้น จากการจ่ายเงินคืนเพื่อรักษาวินัยทางด้านการเงินการคลัง
4.รายได้เพิ่มขึ้น มั่นใจว่าจะสามารถขยายฐานภาษี จากการจัดเก็บรายได้ให้เป็นธรรม
และ 1 ลด คือ รัฐบาลจะขาดดุลลดลง ซึ่งจะเป็นการลงทุนทางการเงินที่คุ้มค่า
นายกรัฐมนตรี ระบุอีกว่า ยังมีอีกหลายนโยบายที่ได้แถลงไว้ อาทิ การเจรจาการค้าเสรี (FTA) การยกระดับวีซ่าไทย-จีน โดยไม่ต้องขอวีซ่า การกระตุ้นการท่องเที่ยวโดยการยกเว้นวีซ่า ซึ่งไม่ต้องใช้งบประมาณ แค่เปลี่ยนกระบวนการทำงาน ปลดล็อกกฎระเบียบบางอย่าง แต่สามารถสร้างแรงกระตุ้นได้อย่างมหาศาล
ข่าวน่าสนใจ:
มั่นใจว่าแม้จะเหลือระยะเวลาในการใช้งบประมาณปี 2567 ไม่นาน แต่รัฐบาลจะใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพ ใช้อย่างรู้คุณค่า ใช้อย่างมีเป้าหมาย ให้คุ้มกับเงินภาษีของประชาชน
สำหรับความเห็น ข้อสังเกต และข้อเสนอแนะต่าง ๆ ขอฝากให้คณะกรรมาธิการวิสามัญ ที่สภาฯ นี้จะแต่งตั้งขึ้น นำไปใช้ประกอบการพิจารณา ตรวจสอบรายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ให้เป็นไปโดยรอบคอบ
จากนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานการประชุม เปิดลงมติ ผลปรากฏว่า ที่ประชุมมีมติรับหลักการ ด้วยคะแนน เห็นด้วย 311 เสียง ไม่เห็นด้วย 177 เสียง และงดออกเสียง 4
พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาพิจารณา 72 คน โดยเป็นสัดส่วนคณะรัฐมนตรี 18 คน พรรคการเมืองต่าง ๆ 54 คน ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล 16 คน เพื่อไทย 15 คน ภูมิใจไทย 8 คน พลังประชารัฐ 5 คน รวมไทยสร้างชาติ 4 คน ประชาธิปัตย์ 3 คน ชาติไทยพัฒนา ประชาชาติ และไทยสร้างไทย พรรคละ 1 คน
ใช้เวลาในการแปรญัตติ 30 วัน นัดประชุมครั้งแรก วันที่ 8 มกราคม 2567
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: