กรุงเทพฯ – พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศ ทำงานเชิงรุก เข้าถึงและแก้ปัญหาประชาชน ให้ทุกคนมีส่วนร่วมกับพรรคมากที่สุด ผ่านกลไกบุคลากรและสาขาพรรค
วันที่ 7 มกราคม 2567 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการประชุม คณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ชุดใหม่ ครั้งแรก ในวันนี้ ว่า ที่ประชุมได้พูดคุยในหลายประเด็น ซึ่งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม และมีการแจ้งการตอบรับการเปลี่ยนแปลง กก.บห.ชุดใหม่ จำนวน 40 คนน จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง และนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่แจ้งมายังพรรคประชาธิปัตย์ อย่างเป็นทางการ เมื่อ 3 มกราคม 2567
ที่ประชุม ได้พูดถึงภาพรวมของการอภิปรายในการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ซึ่ง กก.บห. ชื่นชม และขอบคุณ ส.ส.ของพรรค ที่ทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรอย่างเต็มที่ และถือว่าประสบผลสำเร็จ พร้อมมอบหมายให้ นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค และนายนริศ ขำนุรักษ์ รับผิดชอบในส่วนของการดำเนินกิจการทางการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
“นี่คือสิ่งที่ยืนยันว่า ประชาธิปัตย์เราทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง ตรงไปตรงมา มีข้อเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์ในการพิจารณางบในสภาที่ผ่านมา ในส่วนที่คณะกรรมการบริหารพรรคได้มีการเตรียมการพูดคุยถึงการทำหน้าที่ในส่วนของฝ่ายค้านให้เต็มที่ สมบูรณ์” นายราเมศ กล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงอีกว่า ปชป.จะดำเนินกิจกรรมทางการเมืองทันที ที่ประชุมจึงมอบหมายภารกิจให้รองหัวหน้าพรรค ทั้ง 5 ภาค ซึ่งประกอบด้วย นายสมบัติ ยะสินธุ์ รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ รับผิดชอบกิจกรรมทางการเมืองในภาคเหนือ, นายไชยยศ จิรเมธากร รองหัวหน้าพรรคภาคอีสาน รับผิดชอบภาคอีสาน, นายประมวล พงษ์ถาวราเดช รองหัวหน้าพรรคภาคกลาง รับผิดชอภาคกลาง, นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคภาคภาคใต้ รับผิดชอบภาคใต้ และ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรค กรุงเทพมหานคร ดูกแลกิจกรรมการเมืองใน กทม.
ทุกคนต้องเริ่มทำงานทันที โดยรองหัวหน้าพรรค ทั้ง 5 คน จะได้กำหนดกรอบการทำงาน โดยเฉพาะเรื่องยุทธศาสตร์พรรค ยุทธศาสตร์จังหวัด เพื่อให้เห็นสภาพพื้นที่ข้อเท็จจริงของพี่น้องประชาชนในแต่ละภาค ลงลึกไปถึงรายจังหวัด เพื่อใช้ประกอบการทำงานของคณะกรรมการบริหารพรรคต่อไป
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังให้ความสำคัญ เรื่องการจัดตั้งสาขาพรรค และตัวแทนภาคประจำจังหวัด ที่ขณะนี้ ประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองพรรคเดียวที่ทำกิจกรรมผ่านสาขา ผ่านตัวแทนพรรคในทุกเขตเลือกตั้ง ซึ่งกรรมการบริหารชุดนี้ ก็เน้นย้ำการทำงานเชิงรุกในเรื่องสาขาพรรค และตัวแทนพรรคประจำจังหวัด ให้มีในทุกจังหวัดอีกด้วย สำหรับในส่วนของสมาชิกพรรคก็จะได้เปิดโอกาสให้มาร่วมกันทำงานอย่างเต็มรูปแบบต่อไป
“พรรคให้ความสำคัญกับสาขา และตัวแทนประจำจังหวัด ซึ่งจะทำให้พรรคสามารถแก้ไขปัญหาของประชาชนได้ทุกที่อย่างครอบคลุม และเพื่อให้พรรคมีนโยบายที่ตอบโจทย์ให้พี่น้องประชาชนมากที่สุด รวมไปถึงการร้องเรียนปัญหาต่าง ๆ นี่คือสิ่งสำคัญที่ต้องทำควบคู่ไปกับแนวนโยบายของท่านหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ที่ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชน ผ่านกลไกกระบวนการของการเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมือง” นายราเมศ กล่าว
นอกจากนี้ ยังพูดคุยถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน ผ่านการรณรงค์ให้มีการบริจาคภาษีให้แก่พรรคประชาธิปัตย์ ผ่านรหัส 001 ซึ่งหลังจากนี้จะมีการออกแคมเปญเพื่อรณรงค์ โดยที่ผู้มีเงินได้ไม่จำเป็นต้องเสียเงินเพิ่ม เพียงแต่ติ๊กที่ช่องแสดงความประสงค์บริจาคเงินให้ ปชป. ในรหัส 001
ที่ประชุมยังเน้นย้ำถึงความเป็นสถาบันทางการเมือง การทำงานที่จะต้องร่วมกับ ส.ส.ของพรรค เพื่อจะให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม ทำงานร่วมกันอย่างมีความเป็นเอกภาพ เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็น ทุกเสียงสะท้อน
พร้อมกันนี้ ยังมอบหมายให้ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน ด้านที่เกี่ยวกับประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เข้าถึงประชาชนให้ได้มากที่สุดทั้ง 77 จังหวัด และแต่งตั้ง น.ต.สุธรรม ระหงษ์ รองหัวหน้าพรรค ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการพรรคด้วย
“กระบวนการทั้งหมด คือ โครงสร้างที่คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ได้มีการพิจารณาที่จะเดินไปข้างหน้า เพื่อที่จะร่วมกันทำงานให้กับพี่น้องประชาชน พัฒนาฟื้นฟูพรรคให้ดี เรียกคืนศรัทธาจากพี่น้องประชาชน ไม่มีสิ่งไหนดีเท่ากับการที่เราปฏิบัติลงมือทำในฐานะสถาบันทางการเมืองให้กับพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวทิ้งท้าย
